Original original fiction fighting
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


original fiction fighting
 
บ้านบ้าน  Latest imagesLatest images  ค้นหาค้นหา  สมัครสมาชิก(Register)สมัครสมาชิก(Register)  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)  

 

 [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)

Go down 
5 posters

ใครแต่งได้ดีกว่ากัน
happaki kumochi
[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_lcap0%[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_rcap
 0% [ 0 ]
เจ้าหญิง
[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_lcap0%[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_rcap
 0% [ 0 ]
Neris Fasilvia
[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_lcap33%[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_rcap
 33% [ 1 ]
เสมอ
[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_lcap67%[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) I_vote_rcap
 67% [ 2 ]
คะแนนทั้งหมด : 3
 

ผู้ตั้งข้อความ
King
กษัตริย์แห่งนคร
กษัตริย์แห่งนคร
King


จำนวนข้อความ : 174
Join date : 04/01/2010
: 24

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyMon Mar 22, 2010 2:06 pm

ภารกิจกลุ่มที่ 3 . happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia
สถานที่ : หอสมุดร้างบนเกาะ
[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) 690402


ลักษณะการแต่ง : Character talk(มุมมองตัวละคร)
จำนวนเทิร์น :: 6 เทิร์น
รายละเอียด : หลังจากที่โดนอาซ้อมาลัยประกาศกร้าวให้เข้ามาตรวจสอบ กลุ่ม3 พร้อมปิเอโร่ก็ได้นั่งเรือพายเข้า
จอดบนชายหาดยามค่ำคืน และหลังจากเดินไปสักพักก็ดันไปเจอหอสมุดร้างเข้า ข้างในมีหนังสือแปลกๆเยอะ
ไปหมดและทั้งหมดก็พบกับประตูบานใหญ่บานนึงหลังจากเปิดมันก็พบกับหมาสามหัวขนาดยักษ์!! และท่าทาง
มันกำลังหิวโซอยู่ด้วย





NPC ที่ต้องใช้ :
อุปสรรค : hungry (หิวโหย)
โฆษก(สัมภาระ) : แอนเนาซ์เซอร์
ผู้สั่งการ : อาซ้อ

เนื้อเรื่องที่กำหนด : เจ้าหมาปิศาจนั่นเป็นร่างแบ่งภาคของ Darkness มันกำลังเฝ้าของบางสิ่งอยู่นั่นคือกล่อง
อะไรสักอย่าง อาซ้อสั่งการมาให้ชิงเอามาให้ได้เพราะน่าจะเป็นกุญแจสำคัญอะไรสักอย่าง... การต่อสู้กับ
หมาปิศาจได้เริ่มขึ้นแล้ว

อาซ้อจะติดต่อมาทางโฆษกในแต่ละเทิร์นดังนี้ :
เทิร์น 1 : “กลุ่มสาม! ชิงกล่องนั่นมาให้ได้”
เทิร์น 2 : “ให้ระวังอสูรต่างๆด้วย เนื่องจากพลังอะไรบางอย่างอาจทำให้พวกมันดุร้าย”
เทิร์น 3 : “ ถ้าเกิดดวงตาหรือปากลอยฟ้าได้อย่าไปยุ่งกับมันเชียว”
เทิร์น 4 : “ ฉันเปลี่ยนสีเล็บใหม่เป็นสีลาเวนเดอร์ด้วยแหละ~”
เทิร์น 5 : " ฉันสวย"
เทิร์น 6 : "ให้ไปที่โบสถ์ใจกลางเกาะอย่างเร่งด่วน"

เทิร์นจบที่กำหนด : เอาชนะหมาสามหัวได้อย่างฉิวเฉียดและนำกล่องมาได้สำเร็จแต่ทว่ามันล็อคอยู่เปิดไม่ได้
เหมือนกับว่าจะต้องใช้กุญแจอะไรสักอย่างเปิดมันออก พวกเขาหอบกล่องนั่นแล้วมุ่งตรงไปยังโบสถ์ใจกลางกล่องอย่างเร่งด่วน

เสร็จสิ้นการโหวต 8 เมษา


แก้ไขล่าสุดโดย King เมื่อ Fri Apr 09, 2010 2:58 pm, ทั้งหมด 10 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน Go down
Howling
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น



จำนวนข้อความ : 13
Join date : 27/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyMon Mar 22, 2010 2:09 pm

ลงชื่อรับทราบภารกิจ

Neris Fasilvia
ขึ้นไปข้างบน Go down
Princess
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น



จำนวนข้อความ : 42
Join date : 14/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyMon Mar 22, 2010 2:24 pm

ลงชื่อค่ะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
maru
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น
maru


จำนวนข้อความ : 35
Join date : 14/02/2010
: 32
ที่อยู่ : โลกต่างมิติ

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyMon Mar 22, 2010 3:13 pm

ลงชื่อครับ
จะพยายามเต็มที่~
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://s1.zetaboards.com/pkbattle
maru
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น
maru


จำนวนข้อความ : 35
Join date : 14/02/2010
: 32
ที่อยู่ : โลกต่างมิติ

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyMon Mar 22, 2010 8:38 pm

Round2 : Turn1

นที่สุดการเดินทางก็สิ้นสุดลง...

ผม องค์หญิง เนริส และคุณแอนเนาส์เซอร์ เดินทางมาถึงด้วยเรือพายอันแสนคุ้นเคยที่ผมใช้ตอนแข่งขันเมื่อวานหยก ๆ
และแน่นอนว่าหน้าที่ฝีพายก็ตกเป็นของผมผู้คุ้นเคยการบังคับเรือที่สุด(ส่วนคุณแอนเนาส์นี่ คะยั้นคะยอเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมาพายให้
ทั้ง ๆ ที่เขาน่าจะคุ้นเคยกว่านะ) และแน่นอนว่ากว่าจะมาถึงเกาะปริศนาแห่งนี้ก็ลำบากลำบนพอตัว ถึงขนาดของเรือจะใหญ่ขึ้นมานิดหน่อย
เป็นสำหรับนั่งได้สี่คนก็เถอะ แต่คำสาปขององค์หญิงเธอเกือบทำให้เรือล่มจนผมนึกว่าต้องตายกลางทะเลยก ’GANG’
ซะก่อนที่จะได้เริ่มปฏิบัติภารกิจที่ได้รับนี่ซะอีก!

คืนนี้ดวงจันทร์ดับมืด อากาศเย็น ลมสงบ พวกผมทั้งสี่คนจอดเรือเทียบชายหาด ลงเดินเรียงแถวตอนอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
เข้าไปในตัวป่าโปร่ง ผมซึ่งอยู่ในชุดนักเรียนตัวโปรดเป็นคนถือตะเกียงนำทางเดินเคียงคู่นำหน้าแถวกับคุณเนริสผู้มีผมสีทองเปล่งประกาย
พร้อมรูปร่างเพรียว ส่วนถัดไปสักสองช่วงก้าว เป็นเจ้าหญิงในชุดสุดยอดเช่นเคย...ชุดรัดรูปสีดำขลับตั้งแต่ต้นคอไปจรดปลายเท้าสีดำสนิท
กลมกลืนกับความมืด เห็นชัดก็แต่ถุงมือสีขาวที่คลุมจากมือไปถึงข้อศอกทั้งสองข้าง เธอเดินเคียงคู่กับคุณแอนเนาส์เซอร์ซึ่งเดินไปพลาง
หลบอ้อมแขนของเจ้าหล่อนไปพลาง ผมซึ่งเดินนำหน้าไม่อยากเหลียวหลังไปมองเท่าไหร่นัก เลยเดินไปเรื่อย ๆ โดยมีเสียงสนทนา
ของเจ้าหญิงและเสียงหลบไปมาของคุณแอนเน้าส์ ไล่หลังมาเป็นระยะ ๆ


“ไม่ต้องห่วงนะคะ หล่อส้ม เดี๋ยวเจ้าหญิงผู้นี้จะปกป้องคุณด้วยร่างกายเองค่ะ”


แซ่ก แซ่ก


“ไม่ต้องหรอกขอรับ....”


“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ แหม่ ๆ ๆ มานี่มะ มาให้หญิงควงแขน”


แซ่ก ซวบ


“ไม่เอาน่ะขอรับ”

ฝุ่บ...


“แหม่ ๆ ทำเขิน...อุ๊ยดูสิตัวสั่นเชียว มาให้หญิงกอดซะดี ๆ คงหนาวล่ะสิ”

“....”



คุณแอนเนาส์ไม่ตอบอะไร แต่ผมได้ยินเสียงซุบซิบอะไรนิดหน่อย และ...

“หนาวเหรอยะ! ร้อนจะตายชัก!”

“ว๊าย~!”

ผมกับคุณเนริสหันหน้าดังควั่บไปข้างหลังแทบจะหัวโขกกันที่จู่ ๆ เสียงของอาซ้อดังขึ้นมาจากข้างหลัง
แถมดังหยั่งกับมาจากลำโพงสเตอริโอรอบทิศ ภาพที่เห็นปัจจุบันตอนนี้คือ องค์หญิงที่เกือบจะหน้าทิ่ม
พยายามทรงตัวอยู่โดยยันไว้กับต้นไม้ใกล้ ๆ ส่วนคุณแอนเนาส์ถือเครื่องคล้าย ๆ โทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ
ต้นเสียงของอาซ้อน่าจะมาจากมือถือนั่น

“รายงานมาซิว่าอยู่ไหนแล้ว”

“ขอรับ เพิ่งจะลงเดินประมาณห้านาทีขอรับ”


“โอเค ใกล้จะถึงแล้วสินะ เอาละ หนุ่มทั้งสองคนด้านหน้าเดินต่อไปแล้วก็ทะลุผ่านพงหญ้าไปเลย!”

“เอ๋อ...เอ่อ ครับ / ครับ”

ผมสะดุ้งเฮือกพร้อม ๆ กับคุณเนริส ในใจก็สงสัยว่าซ้อแกรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้เรานำหน้า
แต่เหตุผลนั้นก็ค่อนข้างแน่ชัดอยู่แล้ว...เพราะซ้อเมพขริง ๆ....

เราเดินต่อไปสักครู่หนึ่งก็เจอพงหญ้าจริง ๆ ดังคำซ้อบอก พงหญ้านั้นสูงตระหง่านราวสามเมตรเหมือนเป็นกำแพงอะไรสักอย่าง
ทอดยาวไปด้านข้างสลับกับต้นไม้ที่ขึ้นเป็นแนว ผมกับเนริสทะลวงผ่านเข้าไปก่อน หลังพงหญ้านั้นสว่างมาก
เราปรับสายตาสักครู่หนึ่งก็เห็นภาพด้านหน้าชัดเจน

เป็นตึกขนาดใหญ่ชั้นเดียวสูงสามเมตร ทาสีเหลืองนวล สว่างราวกับว่าตึกส่องเรืองแสงออกมาด้วยตัวของมันเอง
ตัวตึกทอดยาวเข้าไปสอดแทรกระหว่างหมู่ไม้ที่ขึ้นขนาบข้างช่วงตึกซึ่งกว้างประมาณแปดเมตร ด้านหน้าไม่ห่างจากเรานัก
เป็นประตูบานใหญ่ทำจากไม้กว้างและสูงประมาณสองเมตร แกะสลักลวดลายแปลก ๆ ระหว่างที่ผมกับคุณเนริสชมความงามของตัวอาคาร
เจ้าหญิงกับคุณแอนเนาส์เซอร์ก็เพิ่งทะลวงพุ่มไม้เข้ามาด้วยท่าทางทุลักทุเล

“ถึงแล้วครับอาซ้อ” คุณแอนเนาส์พูดกับมือถือ สักครู่ก็มีเสียงซ่า ๆ แล้วเสียงอาซ้อก็ดังขึ้นอีก ผมกับคุณเนริสหันหลังให้ตัวตึกแล้วมาฟังอาซ้อแถลงการณ์

“เอาล่ะ มาถึงแล้วสินะกลุ่มสาม – นี่ยัยเจ้าหญิง หยุดนิ่ง ๆ ก่อนได้ไม๊! - เอ้าไหนทวนสมาชิกซิ คุโมจิ!”
“ครับ”
“เนริส”
“ครับ”
“โอเค หนุ่ม ๆ อยู่ครบดี ต่อไปฉันจะอธิบายภารกิจคร่าว ๆ นะ”

ผมเงยหน้ามองคุณเนริส คุณเนริสก้มมองผมซึ่งเตี้ยกว่า ต่างพร้อมใจกันตีสีหน้าสยองหน่อย ๆ ให้กันตอบแทนอาซ้อแก
ที่เป็นห่วงเป็นใยแล้วค่อยหันไปฟังต่อ เจ้าหญิงตอนนี้ได้โอกาสถือวิสาสะควงแขนคุณแอนเน้าส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อาซ้อตีเสียงเข้มในแบบฉบับเฉพาะของเธอแล้วเริ่มสั่งการ

“เอาล่ะ ข้างหน้าของพวกเธอนี้คือหอสมุดร้างของเกาะนี่ หน้าที่ของพวกเธอคือ
ตรวจสอบหอสมุดและหา’กล่อง’ใบหนึ่ง ที่อยู่ข้างใน”


“กล่อง เหรอครับ?” ผมเอ่ยปากถามทันใด

“ใช่ กล่อง”

“แล้วมันมีลักษณะยังไงเหรอครับ?”

“เอาน่ะ มันเป็นกล่อง สำคัญมาก - โอ๊ย ฉันกำลังเจ็บนิ้วกลางนี่จริง ๆ เลย มาหักอะไรตอนนี้เนี่ย -ยังไงก็ กลุ่มสาม! ชิงกล่องนั่นมาให้ได้! เท่านี้แหละ”

อาซ้อตัดสัญญาณการติดต่อซะดื้อ ๆ ผมกับคุณเนริสยืนอึ้งกันพักใหญ่ ส่วนเจ้าหญิงดูเหมือนจะไม่อึ้งอะไรเท่าไหร่
ยังคงกระทำการเล้าโลมคุณแอนเน้าส์ต่อ แต่แล้วคุณเนริสก็เอามือสะบัดผมของเขาเป็นสัญญาณ แล้วตัดสินใจออกเดินก่อน
ผมจึงเดินตามไป สุดท้ายก็ปิดขบวนด้วยเจ้าหญิงกับคุณแอนเนาส์เช่นเคย

พวกเรากลุ่มสามหยุดอยู่ตรงหน้าประตู สิ่งแรกที่สะดุดตาทันทีคือลายสลักระหว่างรอยเลื่อนของประตู
มันสลักด้วยลายแบบเดียวกับรอยสักที่พวกเรามีอยู่ไม่มีผิดเพี้ยน และเมื่อเจ้าหญิงเดินมาสมทบสัญลักษณ์
ที่สลักบนประตูก็ส่องสีแดง แล้วค่อย ๆ เปิดออกอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่

พวกเราทั้งสี่ก้าวข้ามประตูบานใหญ่ ประตูปิดเองโดยทันทีที่เข้ามากันครบคน ผมใจเต้นนิดหน่อย
แต่ก็เริ่มสำรวจสภาพห้องสมุดกันทันที ภายในนั้นสว่างดั่งเที่ยงวัน ชั้นหนังสือกระจุยกระจาย บ้างก็ตั้ง
บ้างก็ล้มระเกะระกะนับไม่ถ้วนทอดยาวเข้าไปตามทางเดินที่ปูพรมสีน้ำตาลลายแปลกตา ซึ่งมีหนังสือเก่า ๆ
แท่นหนังสือ รวมไปถึงเก้าอีผุ ๆ กระจายทั่วไปตามพรม แสดงให้เห็นว่าหอสมุดนี้ถูกทิ้งร้างมานาน

พวกเราเดินตรงเข้าไปตามทางเดิน เบี่ยงหลบหนังสือเป็นระยะ ๆ หรือไม่ก็ลองเก็บมาพลิกอ่านบ้าง
แต่ก็ไร้ผลเพราะถูกเขียนด้วยภาษาที่ไม่เข้าใจแทบทุกเล่ม เดินพลางสอดส่องเข้าไปตามชั้นหนังสือ
ค้นหาอะไรที่ดูเป็นกล่องไปด้วย แต่ก็ไม่พบสิ่งที่ต้องการ

“โอ๊ย! อาจารย์นี่สั่งภารกิจอะไรแบบนี้มาเนี่ย หญิงล่ะเซ็ง”

เจ้าหญิงเริ่มจะหงุดหงิดเพราะจับคุณแอนเนาส์ไม่ได้สักทีจึงหันมาหากล่องบ้าง ผมกับคุณเนริสไม่สนใจคำบ่น
ช่วยกันค้นชั้นหนังสือและเดินต่อเข้าไปเงียบ ๆ ตามมารยาทห้องสมุด ส่วนคุณแอนเน้าส์...เดินตามมางั้น ๆ มองไปมองมา
ไม่ช่วยอะไร แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์เช่นกัน ผมเห็นดังนั้นจึงลองทักดู

“เอ่อ...คุณแอนเน้าส์เซอร์ครับ ไม่ช่วยกันหาหน่อยล่ะครับ?”

“ขอรับ? คุโมจิคุง ผมก็ช่วยหาอยู่เหมือนกันนะ”

“ก็ผมเห็นคุณเดินตามมาอย่างเดียวเลยนี่?”

ตัวตลกยิ้มตอบ แล้วก็มองซ้ายมองขวาไปมาตามเดิม ผมยักไหล่แล้วกลับไปค้นหาต่อ


สักครู่ถัดมา ดูเหมือนว่าคุณเนริสจะพบอะไรเข้าจึงเอ่ยปากเรียก

“เฮ่...ดูเหมือนว่าจะมีประตูอยู่หลังตู้หนังสือนี่นะ”

คุณเนริสชี้นิ้วเรียวยาวให้ผมมองผ่านช่องระหว่างตู้หนังสือที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ดูเหมือนว่าด้านในจะเป็นประตูบานหนึ่ง
และที่สำคัญคือมีรอยสลักแบบเดียวกับที่พวกเรามีด้วย เราสองคนไม่รอช้าจึงช่วยกันออกแรงเลื่อนตู้ไปข้าง ๆ ดู
ซึ่งเป็นไปโดยง่ายราวตู้มีล้อเลื่อน แล้วหยุดอยู่ตรงหน้าประตูนั้น เจ้าหญิงกับคุณแอนเน้าส์อยู่ห่างออกไปดูเหมือนจะยังไม่รู้

“เอ๋......ระวัง หมาดุ?

ผมอ่านป้ายเล็ก ๆ ที่เขียนติดไว้บนประตู ด้วยภาษาที่ใช้กันทั่วไปอย่างฉงนสงสัย

“จะมีหมาในที่แบบนี้ได้ไงกัน เข้าไปกันเถอะ”

คุณเนริสไม่สนใจคำเตือนผลักประตูทันที

ปึง!

ประตูอ้าเข้าไปอย่างรุนแรง มีกลิ่นอับ ๆ โชยออกมาจากตัวห้องมืด ๆ นั้น

“แฮ่.....”

ผมกำลังจะเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างดังขึ้นจากข้างในจึงชะงักเท้า
แต่ดูเหมือนคุณเนริสจะไม่ได้ยินจึงสาวเท้าเข้าไปก่อนผม

“แฮ่~”

ดังขึ้นอีกแล้ว! ผมชักสงสัยตงิด ๆ พิกลว่าทำไมคุณเนริสไม่ได้ยิน แต่อย่างไรก็ตามสัมผัสแบบนี้ผมเคยรู้สึกมาก่อน
และค่อนข้างแน่ใจว่าข้างในต้องมีตัวอะไรแน่ ๆ ผมจึงไม่กล้าเข้าไป แต่คุณเนริสก็เดินเข้าไปแล้ว และสักครู่เดียวก็กลับออกมา

“เฮ่! เจอกล่องอะไรข้างในนี่ด้วย...นี่ไง”

คุณเนริสกลับออกมาพร้อมกล่องเก่า ๆ ใบหนึ่ง
แต่ข้างหลังของเขานั่นเองทำให้ผมตกใจจนหน้าซีด ปากของตัวอะไรสักอย่างกำลังอ้าเตรียมงับอยู่!

“เป็นอะไรไปคุโมจิ?”
“ข้างหลัง...คุณเนริส!!”

ผมตัดสินใจคว้ามือคุณเนริส แล้วกระชากออกมาจากหน้าประตูทันทีจนกลิ้งออกมา

กร้วม!

กล่องใบนั้นหลุดมือเข้าไปในห้องอีกที ประตูปิดดังปัง

ปัง!


เกือบไปแล้ว! เกือบจะได้เป็นอาหารมื้อดึกของมันไปแล้วไงล่ะคุณเนริส!! ผมคิดในใจ...
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://s1.zetaboards.com/pkbattle
Princess
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น



จำนวนข้อความ : 42
Join date : 14/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyThu Mar 25, 2010 1:47 pm

...ฉันหนุ่มๆ สามคนอันประกอบด้วย ยัยชะนีเทียมเนริส เจ้าเตี้ยฮัปปาคิ และหล่อส้มสุดหล่อลากไส้
ได้รับภารกิจโดยตรงจากท่านอาซ้อให้มาสำรวจห้องสมุดร้างอันแปลกประหลาดนี้
พร้อมกับเอากล่องที่อยู่ในนี้ออกไปให้ได้

... และเรื่องราวก็เริ่มขึ้น.....


... "ปึง"!!! เสียงของพวกผู้ชายดังขึ้นจากอีกฝากของห้องสมุด สงสัยพวกนั้นจะพบกับอะไรบางอย่างซะแล้ว!!
ฉันรีบใช้รองเท้าหนังแรดอย่างดีของฉัน ถีบหนังสือที่อยู่ทั่วไปในห้องสมุดแห่งนี้ ก่อนจะรีบวิ่งไปตามเสียงนั้น....

... และ....

... วาป!!!!!

... พลันรอยสักที่หน้าอกของฉันก็เปล่งแสงสีแดงอ่อนพร้อมกับเสียงไม้กระแทกดังขึ้นทั่วห้องสมุดลึกลับ!!!

... "ซวยแล้วไง" ฉันคิดในใจ ก่อนจะเรียกแส้ประจำตัวออกมา พลางสายตาของฉันหันไปทางหน้าห้องที่เจ้าพวกนั้นอยู่พอดี
พลันฉันหันไปมองป้ายที่เขียนไว้ข้างๆ ห้อง.....

... "ระเบียงต้องห้าม..."

... "เยี่ยม =[]=" ฉันสบท ก่อนจะพาร่างของตนเองไปอยู่ข้างๆ หล่อส้มในเวลาไม่นาน พลางมองสำรวจประตูบานไม้นั้นอย่างสนใจ
มันเป็นบานประตูไม้ในสมัยโบราญ ซึ่งยังไม่มีอารยธรรมลูกบิดเอาไว้ล็อกกันไม่ไห้ชาวบ้านชาวช่องโผล่พรวดเข้ามาในเรือนหอ
ขณะที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังเล่นเกมส์ซ่อนแอบใต้ผ้าห่มกัน แถมมันยังดูไม่แข็งแรงพร้อมที่จะถูกอะไรซักอย่าง
ที่อยู่ข้างหลังบานประตูพังออกมาวิ่งเล่นแน่ๆ และฉันค่อนข้างแน่ใจว่า กล่องอยู่ในนั้น

... "ในนี้มีอะไรอยู่เหรอจ๊ะหนุ่มๆ " ฉันเอ่ยเสียงหวานพลางหันไปมองหน้าหล่อเหลาเหล่านั้น
พร้อมกับทำสีหน้าประมาณว่า "ทำอะไรกันฉันรู้นะ "

... "อาซ้อ??" ฉันเอ่ยเชิงถาม พลันหล่อส้มส่ายหน้า

... "สามีอาซ้อ?"

... "เมียอาซ้อ!!"

... "ลูกอาซ้อ!!!" ฉันเริ่มเอ่ยดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถุกคำตอบคือการส่ายหน้าซีดๆ ของหล่อส้ม

... "ชะนี!!"

... "ปัง!!!" พลันอะไรที่อยู่หลังบานประตูนั้นนั้นกระแทกประตูอย่างจัง ฉันสะดุ้งสุดตัว
ก่อนจะถือโอกาศไปซบอกล่ำๆ ของหล่อส้ม

... "รออยู่นี้ก็รู้คำตอบแล้วละ" เนริสเอ่ยอย่างไปแคร์สื่อก่อนจะควักมีดคู่ออกมา

... "ต้าย ใครจะโง่อยู่ละย่ะ!!" ฉันเอ่ยก่อนจะก้มไปตรวจว่าสายรัดรองเท้าของฉันยังอยู่ในสภาพพร้อมวิ่ง

... "ปัง!!!" คราวนี้มันชนอีกครั้ง พวกเราถอยห่างจากประตูออกมาอีกก้าว

... อย่างนี้ต้องใช้แผน R

... R U N วิ่ง ค่ะ วิ่ง~~~

... "งั้นเราจะอยู่ตรงนี้รอให้พ่อโดนยึดทรัพย์เหรอค่ะ ถอยไปตั้งหลักค่ะ!!" หญิงเตือนสติทุกคน
ก่อนจะพาพวกพ้องใส่หลวงพ่อโกยวิ่งหน้าตั้งไปหลบที่ชั้นหนังสืออีโรติก โอ้ว สถานที่มืดกับผู้ชายสามคน

... "จากตรงนี้ เราสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหน้าห้องนั้นได้พอดี " ฉันมองสำรวจซอกหนังสือนี้ก่อนจะใช้พลังเวทย์เปลี่ยนหนังสือให้หนาขึ้น
และนำมาวางซ้อนกันเป็นตั้งๆ เพื่อกำบังตน

... โอเคทีนี้ก็โล่งใจไปได้เปราะหนึ่งว่าอย่างน้อยๆ เราก็สามารถจะซ่อนตัวได้ซักพัก

... "ปัง!!" เสียงเจ้านั่นกระแทกประตูอีกครั้ง คราวนี้ประตูไม้เริ่มมีรอยร้าวเล็กๆ แล้ว

... และ!!!

... "ตูม!!!" พลันสิ่งนั้นดันประตูออกสำเร็จ พร้อมกับฝุ่นฟุ้งไปทั่วบริเวณหน้าประตูนั้น ฉันมั่นใจว่าได้ยินเสียงฮัปปาคิคุง
อุทานอะไรซักอย่างออกมาด้วยความกลัว และมั่นใจกว่าว่าเนริสกับหล่อส้มกำลังกลั้นหายใจ

... พลันฝุ่นค่อยๆ จางลง ก่อนที่จะปรากฎร่างของเจ้านั่น

... พร้อมกับที่หน้าของเนริสกับหล่อส้มเริ่มเป็นสีเขียว เพราะลืมไปแล้วว่าตัวเองกลั้นหายใจนานขนาดไหน ...

... และสิ่งที่อยู่ในฝุ่นนั้นคือ .....

... "สุนัขสามหัวมันมีขนาดใหญ่กว่าสุนัขทั่วไป กายสีดำนิล นัยน์ตาสีเลือด สูงประมาณหนึ่งเมตร..."
เสียงของหล่อส้มเอ่ยขึ้น ก่อนที่พวกเราทุกคนจะหันไปทางเขา

... "มันคือ ฮังกรี้ ความหิวโหยที่กัดกินทุกอย่างครับ" เขาเอ่ยด้วยสายตาหวาดกลัว ก่อนที่จะพยักหน้าไปทางเจ้าหมานั่น

... "ระวังตัวนะครับ มันไม่ชอบผู้หญิง กับของสีส้ม.." หนุ่มหล่อในชุดส้มเอ่ยเบาๆ

... "ปุกปุย!!! เอ้ย เคอร์เบอรอส สินะ " ฉันเอ่ยเบาๆ ก่อนจะนึกถึงบทเรียนที่ฉันเคยเรียนสมัยเด็กๆ

... "เคอร์เบอรเป็นสัตว์ในเทพปกรณัมกรีก มีรูปร่างเป็นสุนัขสีดำใหญ่โตพ่วง มี 3 หัว
ปลายสุดของหางเป็นงู มีหน้าที่เฝ้าทางลงสู่นรกที่หน้าประตูทางเข้า ตรุทาร์ทะรัส..." ฉันเอ่ย

... "เจ้าพวกนี้ใน ในอาณาจักรฉันถือเป็นสัตว์สวงน เพราะหัวทั้งสามนั้นมีพลังจึงทำให้โดนล่าจนอยู่ในภาวะเสี่ยง.."
ฉันเอ่ยอย่างอธิบาย เมื่อทุกคนทำสีหน้าสงสัยในคำพูดก่อนหน้านี้ของฉัน

... "ปลายหางเป็นงูเหรอ ผมก็เห็นว่ามันเป็นหางธรรมดานี่นา" ฮัปปาคิถามขึ้นอย่างสงสัย ก่อนที่ฉันจะชะโงกหน้าไปทางเจ้าหมา
เพื่อดูให้แน่ใจสักหน่อย มันยังสำรวจชั้นหนังสืออื่นอยู่

... "ตามตำนานเล่าอย่างนั้นแต่ฉันหวังว่ามันคงไม่..."

... "Poignant tail!!!" !!!

... เสียงนั้นดังขึ้นทำลายความเงียบ พวกเรารีบชะโงกหน้าออกไปดูที่ต้นเสียง
และเห็นเจ้าหมาสามหัวกำลังยืดหางของตนเองออก ก่อนที่หางนั้นจะเลื้อยไปตามพื้นห้องสมุดแห่งนี้ราวกลับมีชีวิต !!!
และทุกที่ที่หางนี้ผ่านไป มันจะทิ้งรอยคราบของอะไรซักอย่างที่กัดพื้นจนเป็นรอยทางยาว

... "เป็นจริง.." ฉันต่อคำให้จบ

... แม่เจ้าขาาา มันพูดได้ค่ะ ฉันกรีดร้องเบาๆ ในใจ ก่อนจะใช้พลังเวทย์เสริมความแข็งแรงให้กับหนังสือที่กำบังบวกเราไว้อีก

... "งั้นเราคงต้องรีบเข้าไปเอากล่องที่อยู่หลังห้องนั้น แล้วเผ่นสินะครับ" ฮัปปาคิเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะหันมามองทางฉันประมาณว่า "รู้อะไรบ้างไหมเจ้?"

... "โอเค ฉันพอรู้อย่างหนึ่งว่า....." ฉันหันไปมองทางเนริส

... "นายมีเลือดไซเรน ....คงร้องเพลงเป็นสินะ.." ฉันถามเบาๆ

... "ร้องเพลง?" เขาพูดเชิงถาม ก่อนที่ฉันจะพยักหน้าให้

... "เจ้าหมานี้มันแพ้เสียงเพลง พอได้ยินมันจะหลับ พอมันหลับ ฉันจะใช้เวทย์เข้าไปหยิบกล่องมาแล้วเราก็เผ่น ดีม่ะ!!!"
ฉันสนอความคิดอันชาญฉลาดสไตล์หญิงยุคใหม่ที่เป็นช้างเท้าหน้า ที่นำพา สามี(?) ทั้งสามสู่ความสำเร็จ

... "ช่วยไม่ได้" เขาสูดลมหายใจลึกๆ เข้าริมฝีปากคู่สวย พลันเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาทำลายความเงียบ

... “ให้ระวังอสูรต่างๆด้วย เนื่องจากพลังอะไรบางอย่างอาจทำให้พวกมันดุร้าย!!!” เสียงอาซ้อดังลอดลำโพงของหล่อส้มมา
ก่อนที่มันจะดังก้องไปทั่วทั้งห้องสมุด ขอบคุณค่ะอาซ้อ!!! ทีหลังให้หนูโดนมันคาบไปกินก่อนสิค่ะค่อยเตือน

... แปปนะ....

... เสียงดังขนาดนี้....มันคงไม่....

... ฉันชะโงกหน้าออกจากที่กำบังและพบว่า.....

... "เวรละ" ฉันอุทานลั่น เพราะเสียงของอาซ้อนี่ละที่ทำให้เจ้าหมาหันมองมาทางเรา และมันวิ่งมาทางนี้แล้ว!!!!
คุณแม่ขา ช่วยลูกด้วย ลูกยังไม่อยากเป็นของหมาสามหัว


... "ทุกคน ถอย" ฉันตะโกนก่อนจะถือโอกาศโอบเอวเนริสกับฮัปปาคิ ก่อนจะใช้เมจิกพาตนเองพร้อมด้วยเนริสและฮัปปาคิออกไปยังที่ปลอดภัย

... ส่วนหล่อส้มนะเหรอ ...

... "กะอีแค่นี้คงไม่ตายง่ายๆหรอก.....มั้ง" ฉันคิดในใจ

... "โอเค ถือซะว่าให้หล่อส้มเป็นตัวล่อแล้วกัน" ฉันพูดพลางสำรวจบริเวณรอบๆ
พบว่าเราอยู่บนตู้หนังสือที่สูงมาก แน่นอนว่ามันเป็นทำเลที่ดีกว่าชั้นนิยายอีโรติก

... "อ้ากกก" เสียงของหล่อส้มซึ่งกำลังโดนเจ้าหมาน้อยวิ่งไล่ดังขึ้นทั่วห้องสมุดอันเงียบงันแห่งนี้
แต่แน่ละ ด้วยฝีเท้าไวขั้นเทพ จึงสามารถหลบการโจมตีต่างๆ ของเจ้าหมาได้อย่างง่ายดาย

... ขืนช้าละก็ คืนต่อไปหญิงก็ไม่มีของหวานให้กินเล่นยามค่ำคืนเซ่~~~

... "ร้องเลย เนริส" ฉันเอ่ยเบาๆ ก่อนจะหันไปสบตากับชายหนุ่ม

... "เชอะ" เขาประชดเบาๆ ก่อนที่เสียงเบา ค่อยๆ เปล่งออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม

... จะหัวหรือก้อยก็ต้องดูกันอีกทีละ !!!! ฉันความความหวังไว้กับนายแล้วนะ เนริส!!!
ขึ้นไปข้างบน Go down
Howling
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น



จำนวนข้อความ : 13
Join date : 27/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptySun Mar 28, 2010 10:34 pm

ฉันไม่ชอบการทำงานเป็นกลุ่มเท่าไหร่นัก


บางทีมันก็น่าหงุดหงิด น่ารำคาญ


คนเยอะเรื่องแยะพาให้อารมณ์เสียเปล่าๆ


แต่ในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้


ฉันก็ไม่ปฏิเสธหากมันจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


พอจะเคยได้ยินมาบ้างถึงเรื่องของเซอร์เบอร์รัสหมาสามหัวที่เฝ้านรก


แต่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้เจอด้วยตัวเองเร็วขนาดนี้!


รู้สึกเจ้าตัวตลกส้มจะเรียกมันว่า Hungry


และสิ่งที่ฉันไม่ชอบมากกว่าการทำงานเป็นกลุ่มคือ


การถูกออกคำสั่ง


มันน่าหงุดหงิด...


ฉันไม่ชอบเวลาที่ใครมาทำตัวอยู่เหนือกว่าออกคำสั่งราวกับเป็นคนใช้


แต่ก็หนีไม่พ้นเหตุผลเดิม


หากมันจะทำให้ได้ผลลัพธ์ดี ก็คงปฏิเสธมันยากนัก


“ร้องเลยเนริส”หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มเอ่ยขึ้นในเชิงเป็นคำสั่ง หากน้ำเสียงของหล่อนก็ฟังร้อนรนไม่น้อย ดูจากท่าทีก็รู้ว่าหากไม่ร้องเพลงออกไปตอนนี้คงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ...


...ซึ่งฉันเองก็เห็นตรงกันกับหล่อน...


กระนั้นก็ตาม,การทำตามคำสั่งของใครไม่ใช่วิสัยตามปกติของฉันเลยซักนิด


“เหอะ...”ส่งเสียงประชดในลำคอเบาๆอย่างค่อนไปทางหงุดหงิดแต่หากนี่เป็นทางรอด ก็ไม่มีเหตุผลที่จะขัดแย้ง


“พวกเราจะคอยระวังให้ครับ”คุโมจิพูดขึ้นอย่างเสนอตัวท่าทางหมอนี่เองก็คงอยากให้ทำอะไรซักอย่างกับเจ้าหมาสามหัวนั่น


“ไม่ต้อง” ฉันสวนกลับสั้นๆ มันฟังดูเย็นชาไม่น้อยสำหรับคนหวังดี


แต่ช่างปะไร ไม่เกี่ยวกับฉันซักหน่อย


สายตาหันกลับไปมองทางสิ่งที่เจ้าหมาดำนั่นปกป้องอยู่เบื้องหลังแล้วเอ่ยคำพูดต่อไป


“พวกนายสองคนคิดหาทางไปเอากล่องมาจากเจ้าหมาสีดำนั่นระหว่างที่ฉันกล่อมมันดีกว่า”


แทนที่จะมากังวลกับการปกป้องคุ้มครองฉัน ไปหาทางเอากล่องนั่นมาเถอะ


มีประโยชน์กว่ากันเยอะ


ฉันกางปีกก่อนจะกระโดดลงจากชั้นหนังสือมาประจันหน้ากับเจ้าเซอร์บิรุสจ้องนัยน์ตาสีเลือดสดของมันอย่างไม่กลัวเกรงในขณะที่เก็บปีกคู่สำคัญเข้าไปในแผ่นหลัง

แววตาที่มันใช้มองนั่นดูว่ามันคงไม่ชอบฉันซักเท่าไหร่นักเพราะอะไรไม่จำเป็นต้องรู้ เข้าใจแค่ว่ามันไม่ถูกชะตากับฉันเท่าไหร่ก็พอ


มันละเป้าหมายจากแอนเนาซ์เซอร์สีส้มมาทางฉันแทน เจ้าตัวตลกรีบวิ่งไปหาที่หลบจนหายไปจากคลองสายตาในชั่วพริบตา


รู้สึกได้ว่ารอยสักประหลาดที่ต้นขากำลังเต้นตุบและแผ่ไอความร้อนจางๆออกมาไม่ได้สนใจมองมันนักหรอก ในเมื่อมันอยู่ใต้กางเกงไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว ตอนนี้สิ่งที่ฉันควรให้ความสนใจคือเจ้าหมานี่ต่างหาก


ไอ้หมาดำแยกเขี้ยวโชว์ฟันเขี้ยวขาวสะอาดเกือบจะครบทุกซี่ น้ำลายหนืดเยิ้มดูน่าสยดสยองจนฉันแทบจะสบถอย่างขยะแขยง
มันคำรามในคออย่างขู่หวังจะให้ฉันหวาดกลัว


น่าเสียดายที่ไม่เป็นผล...


นอกจากขยะแขยงแล้วมันก็ไม่ได้น่ากลัวในสายตาฉันเท่าไหร่...


ฉันแสยะยิ้มอย่างท้าทาย ลบความรู้สึกไร้สาระอย่างคำว่าขยะแขยงออกไปจากใจชั่วครู่ และมันก็ดูท่าจะเข้าใจความหมายของรอยยิ้มกวนประสาทของฉันเสียด้วย


ร่างอ้วนพีดำขลับย่อลง ดวงตาสีสดทั้งหกคู่จ้องกลับมาอย่างไม่ลดละ มันพร้อมจะเข้ามาขย้ำฉันทุกเวลา


แค่ร้องเพลงมันเสี่ยงขนาดนี้เลยเรอะ...


เกิดมาก็เพิ่งรู้


ฉันแตะด้ามมีดทั้งสองแล้วละออกมั่นใจว่ามันยังคงอยู่ติดตัวและสามารถชักออกมากระซวกมันได้หากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น


คุโมจิกับยัยเจ้าหญิงก้มลงมามองฉันจากชั้นหนังสือสูงเหนือหัวท่าทางทั้งสองคนก็ลุ้นอยู่ไม่น้อย แม้ไม่ได้หันไปมอง แต่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมา


ฉันสูดหายใจเข้าลึกจนเต็มปอดก่อนจะหันไปกระซิบกับคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งสอง


“จะเริ่มล่ะนะ...”


อีกเรื่องหนึ่งคือ


นี่เป็นการร้องเพลงต่อหน้าคนที่ไม่ได้สนิทกันเป็นครั้งแรกๆ


...ไม่รู้ว่าป่านนี้องค์หญิงกับคุโมจิจะคิดแผนการไปเอากล่องนั่นได้หรือยัง


สิ้นความคิด ฉันก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบเป็นสัญญาณว่าทั้งสองคนพร้อมจะเริ่มแผนการแล้ว


ใช้เวลาอยู่ไม่นานนัก


บทเพลงที่เคยได้ยินเมื่อวัยเด็กก็ถูกหยิบขึ้นมา


เนื้อเพลงที่ฉันเองก็จำไม่ได้จึงเลือกที่จะร้องด้วยคำร้องสั้นๆ


เป็นเพลงกล่อมเด็กเพลงแรกในชีวิตของฉัน


แต่ถึงแบบนั้น


ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลดีเลยทีเดียว...


หมาสามหัวร่างยักษ์ที่เมื่อซักครู่พร้อมจะกระโจนเข้ามาหาฉันได้ทุกเมื่อยืดร่างขึ้นยืน สายตายังคงจับจ้องอย่างแน่วแน่ทว่าแววตาได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง...


มันทรุดร่างลงนั่ง หูทั้งหกชี้ตั้งขึ้นตามอากัปกริยาของหมาเมื่อตั้งใจฟังอะไรซักอย่าง หางทั้งสามแกว่งไกวไปมาอย่างพออกพอใจอย่างที่สุด


ฉันขยับมือไปด้านหลัง ส่งสัญญาณให้เจ้าหญิงและคุโมจิเริ่มเคลื่อนไหว


เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังขึ้น เจ้าหมาสีดำข้างหน้าหูกระดิก หัวทั้งสามส่ายไปมาราวกับมองหาต้นเสียง มันขู่คำรามในลำคออย่างหงุดหงิดและกำลังขยับลุกขึ้นแล้ว


และนั่นบังคับให้ฉันต้องเร่งเสียงตัวเองให้มากขึ้นกลบเสียงฝีเท้าทั้งสองคู่นั้น


เจ้าหมาซึ่งฉันว่าคงโง่พอดูเลิกสนใจเสียงนั้นในทันที มันทิ้งตัวลงนอนหมอบ หางแกว่งไปมาเรื่อยๆอย่างเพลิดเพลินพอใจ ฉันร่างของเจ้าหญิงและคุโมจิเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆกับมัน แต่ก็ยังพยายามเบี่ยงหนีห่างอย่างวาดระแวง


ไอ้หมานี่ก็เชื่องดีออก


รอยยิ้มอย่างผู้เหนือกว่าเริ่มปรากฏขึ้นใบหน้าของฉัน ชั่ววินาทีหนึ่งถึงกับประมาทเจ้าหมาตรงหน้านี่


แต่ก็รู้อยู่ว่าไม่ควรจะวางใจอะไรก็ตาม ตราบใดที่ศัตรูยังมีลมหายใจ ไม่ตายสนิท


มือเผลอแตะลงบนด้ามมีดอย่างพยายามทำให้ตัวเองวางใจ


บทเพลงใกล้จะจบลงเต็มที


และหมาสามหัวสีดำตรงหน้าฉันก็หลับตาพริ้มอย่างพอใจ หางทั้งสามนิ่งลง หูหลุบลู่ลง


...ใกล้จะสำเร็จแล้ว...


ฉันทอดเสียงลง เป็นสัญญาณบอกว่าจบเพลง


เจ้าหมาหลับแล้ว...


ฉันยิ้มอย่างพอใจ เจ้าตัวตลกส้มโผล่หัวออกมาจากหลังตู้หนังสือ กอดอกมองผลงานตัวเองอยู่ครู่เดียวก็ขยับไปด้านหลังของมัน
ประตูถูกแง้มออกเป็นช่องพอดีตัวสำหรับคนสองคน


คุโมจิกับเจ้าหญิงสินะ..


ฉันเปิดประตูให้กว้างอีกนิดแล้วก้าวตามเข้าไป


เจ้าหญิงกับเด็กผู้ชายแค่สองแรงคงยกหีบใบใหญ่ๆนั่นไม่ไหว


แถมยัยเจ้าหญิงนั่นก็ทำท่าจะไม่ยกกล่องที่ทั้งเก่า ฝุ่นเขรอะ แถมยังเปรอะอะไรซักอย่างที่ดูเหมือนจะผสมไปด้วยทั้งเลือดและน้ำลายจนดูโสโครกน่าดูนั่นซะด้วย


คุโมจิกำลังพยายามยกกล่องใบนั้นด้วยตัวคนเดียว ในขณะที่องค์หญิงถูมือไปมาพร้อมส่งเสียง อี๊ อย่างขยะแขยง


“ยกคนเดียวไม่ไหวหรอกน่า”ฉันเอ่ยขึ้น ก้าวเข้าไปที่อีกข้างนึงของหีบ


“ก็คุณเจ้าหญิง...”คุโมจิตอบกลับ ท่าทางเกรงใจยัยเจ้าหญิงไม่น้อย


ฉันพ่นลมหายใจอย่างขุ่นเคือง


“ช่างหล่อน”


จะว่าไป ไอ้กล่องนี่ก็เกือบทำฉันไม่กล้าจับเหมือนกัน


โสโครกเป็นบ้า....


ปัดๆฝุ่นที่เขรอะตามหูจับมันซักนิดก็พอทำเนา ฉันให้สัญญาณกับคุโมจิแล้วยกขึ้นพร้อมกัน


ครั้งแรกที่เอาออกมาให้สามคนที่เหลือดูได้ก็เพราะทั้งแรงเตะและแรงลาก


แต่พอลองใช้มือถือมันก็หนักพอสมควรเหมือนกัน


ยกขึ้นเหนือพื้นเพียงสองสามนิ้วก็ถือว่าเต็มแรงแล้ว


เจ้าตัวตลกส้มโผล่หน้าเข้ามาทันทีที่สถานการณ์ด้านนอกสงบ


“ตายกันหมดรึยังขอรับ...”


ฉันตวัดสายตามองมันอย่างหงุดหงิด ขมวดคิ้วเข้าอย่างอารมณ์เสีย


“แกมาช่วยยกนี่ ไอ้ตัวตลกส้ม!”ฉันเอ่ยอย่างหงุดหงิด แต่ไม่กล้าเสียงดังมากเพราะเจ้าหมาที่กำลังหลับอยู่หน้าประตู


“แต่กระผมไม่เกี่ยวนี่ขอรับ...นี่มันภารกิจของพวกคุณน้า...”เจ้าตัวตลกทำท่าทียียวนกวนประสาทพร้อมทั้งยังเดินวนไปรอบๆทั้งฉันและคุโมจิที่กำลังยกกล่องนั่นด้วย

“แหม~~กระผมอยากรู้จังว่าข้างในมีอะไร~~ สำคัญขนาดไหนน้า~~~”


เจ้าตัวตลกกำลังทำฉันรำคาญ...


“ไอ้ตัวตลก...หุบปา...!!”


“ถ้าเกิดดวงตาหรือปากลอยฟ้าได้อย่าไปยุ่งกับมันเชียว!เสียงดังขึ้นจากเครื่องมือสื่อสารที่หูของแอนเนาซ์เซอร์ ขัดประโยคที่กำลังจะจบให้ชะงักลง


ไม่ใช่เพราะคำเตือนนั่น


แต่เป็นเพราะเสียงของมันต่างหาก!


เสียงของคำเตือนนั้นดังถึงขนาดที่แอนเนาซ์เซอร์สะดุ้งโหยงและรีบวิ่งไปหลบหลังองค์หญิงโดยไม่รู้ตัวในขณะที่หล่อนเองก็อ้าแขนกอดเขาอย่างไม่รังเกียจ


“โอ๋ ไม่เป็นไรนะคะหล่อส้ม เดี๋ยวหญิงจะปกป้องคุณเอ๊ง~”


และเสียงดังขนาดนี้...


ไม่มีทางที่ไอ้หมาข้างนอกจะไม่ได้ยิน!!


“บ้าเอ๊ย” ฉันจะสบถเมื่อได้ยินเสียงเจ้าหมาด้านนอกนั่นขยับร่าง ตามมาด้วยเสียงมันขู่คำรามอย่างหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ยินเสียงของหรือไม่เห็นว่ามีตัวเจ้าของเสียงอยู่ตรงนั้นกับมัน “รีบยกออกไปเร็ว!!”


ยัยเจ้าหญิงกอดตัวตลกไว้แน่นในขณะที่เดินสะบัดก้นออกไปที่ประตู ฉันหันมองคุโมจิและพยักหน้าเป็นสัญญาณเริ่มเดิน


เพราะยกของหนัก การก้าวแต่ละก้าวจึงเชื่องช้าไม่ได้ดั่งใจซักนิด


เจ้าหญิงกับแอนเนาซ์เซอร์ก้าวไปถึงประตูแล้ว แต่วินาทีที่หล่อนจะก้าวไปนั้น ประตูก็เปิดออก...


พร้อมกับเสียงคำรามลั่น!!!


“โฮกกกกกกกกกกกกก!!!!!!


“ชิบแล้วไง!!”


เจ้าหมายืนจังก้าอยู่ตรงนั้น


องค์หญิงชะงักเท้าในขณะที่แอนเนาซ์เซอร์วิ่งไปหลบหลังหล่อนอย่างลืมตัว


“มันเกลียดกระผมมม!!!”


“มาหลบอะไรหลังฉันยะ!! เดี๋ยวฉันก็โดนลูกหลงพอดี!!!”


เป็นครั้งแรกที่ฉันสมน้ำหน้าเจ้าตัวตลกนั่น


“จะเอายังไงกันต่อดีครับ...”คุโมจิเอ่ยราวกับกระซิบ ฉันเขม็งมองเจ้าหมานั่นที่ก้าวเข้ามาช้าๆเหมือนพวกเราเป็นหมูในอวย หนีไปไหนไม่รอด ต้องรอให้มันขย้ำเอาอยู่แค่ฝ่ายเดียว


สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว


แต่ฉันก็ยังไม่พบคำตอบที่ต้องการ


ยัยองค์หญิงก้าวถอยหลับมายืนในระดับเดียวกับฉันและคุโมจิ


“วางกล่องก่อน...” หล่อนบอก “บางที...มันอาจจะสนใจแค่กล่อง...”


“เดี๋ยวค่อยใช้เพลงของคุณเนริส....” คุโมจิเอ่ยอย่างเห็นด้วย มองมาทางฉันอย่างขอความเห็น


“เสียงร้องคงไม่ได้แล้ว” ฉันกระซิบกลับ “ถึงจะโง่ แต่มันคงไม่ยอมฟังเพลงของฉันอีกแน่ๆถ้ารู้ว่าเป็นแผน”


“แล้วจะเอายังไงดีครับ...”เสียงพูดอีกครั้งเจือไปด้วยความกังวล



“มีเครื่องดนตรีให้ฉันซักชิ้นไหม”


...ถ้าแบบนั้นอาจจะพอมีหวัง...


“ยากละมั้ง” องค์หญิงสวนแทบจะทันที “นี่มันห้องสมุดนะ...ไม่ใช่ห้องดนตรี...”


ก็จริง...


ถ้างั้นล่ะก็...


“งั้นพวกเราก็มีปัญหาแล้วล่ะ”


ฉันจะเอายังไงกับไอ้หมาบ้านี่ดี...
ขึ้นไปข้างบน Go down
maru
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น
maru


จำนวนข้อความ : 35
Join date : 14/02/2010
: 32
ที่อยู่ : โลกต่างมิติ

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyTue Mar 30, 2010 10:36 pm

Round2 Turn4

“งั้นพวกเราก็มีปัญหาแล้วล่ะ”

คุณเนริสเอ่ยออกมาอย่างกังวล แต่ก็ไม่มีเวลาให้กังวล
พวกเราจึงตัดสินใจทิ้งกล่องนั้นแล้วหาทางลัดเลาะให้ห่างจากห้องนี่ก่อน

แล้วก็ได้ที่ซ่อนเป็นชั้นหนังสือ ห่างจากเจ้าหมานั่นค่อนข้างห่างพอสมควร โชคดีที่มันน่าจะยังไม่รู้ตัว
ยังคงส่ายหัวทั้งสามไปซ้ายทีขวาทีพร้อมทำท่าดมกลิ่นฟุดฟิด ๆ

แต่กระนั้นเลยสถานการณ์ไม่ยังดีเสียทีเดียว สักพักมันต้องหาพวกเราเจอแน่ ๆ

ตอนนี้เราต้องเตรียมเครื่องดนตรี....จะเอามาจากไหนดีล่ะ

“ฉันยังมี’ออเดอร์’....”
เจ้าหญิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แล้วจัดแจงใช้พลังทันทีกับตู้หนังสือที่อยู่ถัดไปไม่ห่างนัก

จริงด้วยสิ เจ้าหญิงช่างฉลาดเหลือล้ำ
สักครู่ ตู้หนังสือที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากองค์หญิงก็กลายเป็น...

อ้าว...

ตู้หนังสือกลับเหลวเป็นน้ำเหนียว ๆ เสียดื้อ ๆ คามือเจ้าหญิง!
และที่สำคัญ ตู้หนังสือที่กำลังกั้นพวกเราจากสายตาเจ้าหมาสามหัวก็ดันโดนลูกหลงละลายไปด้วย


“กรี๊ด!!”


เจ้าหญิงสบถอย่างเจ็บใจกับผลของคำสาปของเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเวลาให้เจ็บใจซะแล้ว

หัวทั้งสามของเจ้าหมาหันควั่บมาทางพวกเราพร้อมไฟคุกรุ่นในปากของมัน

“Blaze of inferno!”


ไฟสีดำอันร้อนแรงสำรอกจากปากพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเราทันที
ผมมีสัญชาติญาณไวกว่าทั้งสอง จึงกระโจนหลบไปซ่อนในมุมชั้นหนังสือข้าง ๆ ก่อน

ส่วนเจ้าหญิงกับคุณเนริสหลบได้พอดีเกือบจะโดนเฉี่ยว ๆ กระโจนตัวไปคนละฝั่งกับผม

“โฮก!!”

มันร้องคำรามอีกทีเหมือนเจ็บใจที่เหยื่อหายไป แต่ที่แน่ ๆ สภาพตู้หนังสือที่พวกเราเคยหลบตอนนี้เป็นขี้เถ้าไปแล้ว

เห็นสภาพแล้วใจผมเต้นระทึก หลังพิงชั้นหนังสือ หายใจถี่ด้วยความหวาดกลัวที่ปะทุขึ้นมา
ถ้าโดนเข้าไปล่ะก็แย่แน่ ๆ ผมแพ้พลังไฟอย่างแรงด้วยสิ

กระนั้นเลยสิ่งที่ต้องการตอนนี้ คือการสงบสติ

สักพักผมจึงค่อย ๆ ชำเลืองมองจากหลังตู้หนังสือนิดหนึ่ง


หัวของหมาทั้งสามเหลียวซ้ายแลขวากันให้วุ่นเพื่อหาเหยื่อที่หายไป ผมยังไม่กล้าขยับเกรงว่ามันจะเห็น
ครั้นจะตามไปสมทบก็ไม่ได้ ทั้งสองอยู่คนละฟากกับผมซะแล้ว


“กรี๊ดด!!!”

เสียงเจ้าหญิงจากชั้นหนังสือฝั่งตรงข้ามกับผมร้องดังขึ้นมา...

พร้อม ๆ กับชั้นหนังสือที่ละลายหายไป...

พร้อม ๆ กับที่เจ้าหมามันเห็นเหยื่อ....

พร้อม ๆ กับที่การไล่ล่าเริ่มต้นขึ้น!....


ผมไม่อยากจะทำตัวเป็นคนเห็นแก่ตัวหรอกนะ.....แต่ผมก็ยังไม่กล้าออกจากที่หลบของผมอ้ะ!

เจ้าหญิงกับคุณเนริสถูกเจ้าหมาสามหัวไล่กวดเข้าไปในตัวห้องสมุดทันควัน
ผมมองตามโดยไม่คิดแม้แต่จะเข้าไปช่วย แต่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้เหรอ?

“แหม....ทิ้งเพื่อนร่วมชะตากรรมได้ยังไงขอรับ คุโมจิคุง”

เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างหลัง ผมจึงหันไปตอบพร้อมยิ้มแห้ง ๆ ให้

“แต่ผมก็ไม่อยากโดนไล่กวดเหมือนกันนี่นา ฮิฮิฮิฮิ”
เอ๋า ที่แท้ก็พอ ๆ กันแหละคร้าบ คุณแอนเน้าส์เซอร์.... ผมไม่ตอบ แค่คิดในใจ

คุณแอนเน้าส์ก็เงียบเหมือนกันเพราะเราก็ไม่อยากตกเป็นเป้าให้เจ้าหมานั่นเหลียวกลับมา


เสียงไล่ล่าจางหายไปแล้ว ผมจึงค่อย ๆ ชะเง้อมองจากหลังตู้หนังสือ
เห็นเจ้าหมาอยู่ไหว ๆ ไกล ๆ ดูท่าว่าทั้งสองจะยังไม่เสร็จมัน คงจะกำลังซ่อนตัว


ผมได้แต่ภาวนาขอให้อย่าโดนเล่นงานจนเละด้วยเถิด สาธุ...


เหลียวหลับมาใกล้ ๆ ...ตรงข้ามพอดีเป๊ะไม่ห่างนัก....ห้องนอนของเจ้าหมา

.......

แต่กล่องหายไปไหน!?

......

แปลกเกินไปแล้ว

ตอนแรก คุณเนริสเอากล่องออกมา ขนาดพอดีมือ
เข้าไปอีกที กล่องดันใบใหญ่เบ้อเริ่ม?

แต่ที่สำคัญ ทำไมไม่รู้สึกแม้แต่เอะใจตั้งแต่แรกเลยล่ะ


“หึ หึ หึ หึ”

เสียงแหบ ๆ ชวนสยองสะกิดประสาทหูของผมตงิด ๆ ตามมาด้วยอาการเหมือนจะเบลอหน่อย ๆ

ไม่ผิดแน่...
ผมเสกสะบัดแส้เท่าความคิดทันที

เพี้ยะ! เพี้ยะ!

ผมหันหลังไปดูผลงาน เป็นกลุ่มควันจาง ๆ สองกลุ่มที่น่าจะสลายตัวไปเมื่อครู่
แต่พอจะเห็นเป็นอะไรคล้าย ๆ ลูกตาสีแดง กับฟันขาว ๆ อยู่ภายในกลุ่มควันสองกลุ่มที่ไม่ห่างกันนั่น...

ตาสีแดง ฟัน กลุ่มควันลอย...ดวงตากับปากลอยฟ้า!?

ไม่ผิดแน่ เสียงตะโกนที่พาให้สถานการณ์แย่ลงของอาซ้อก็ยังมีเนื้อความที่เป็นประโยชน์บ้างล่ะนะ

จากที่ซ้อบอกว่าอย่าไปยุ่งกับมัน ดันไปยุ่งซะแล้วสิ แต่ไม่น่าจะเป็นไรมั้ง

แต่ที่แน่ ๆ สิ่งเดียวที่พอจะมั่นใจได้คือพวกเราต้องโดนมนตร์ลวงอะไรสักอย่างเป็นแน่

ถึงกระนั้น รู้ไปก็ยังไม่น่าจะช่วยอะไร ผมจึงตัดสินใจออกจากที่ซ่อน
แล้วตรงเข้าไปในประตูบ้านเจ้าหมา เผื่อจะฟลุกได้กล่องจากในตัวห้อง

ค่อย ๆ ย่อง พลางเหลียวเข้าไปในตัวห้องสมุด


เงียบ...


ไม่ ๆ ๆ ๆ อย่าคิดอย่างนั้นสิคุโมจิ พวกเขาต้องไม่เป็นอะไร
สำรวจห้องนี่ดูก่อน แล้วค่อยไปสมทบก็ไม่น่าจะสาย

ผมมุ่งหน้า ไล่หลังมาด้วยคุณแอนเนาส์ที่ยังคงไม่ช่วยอะไรเหมือนเคย
และในที่สุดผมก็เข้าไปในห้องของเจ้าหมา

จากที่น่าจะเป็นกลิ่นอับเหม็นหึ่งแบบเมื่อครู่
กลับเป็นกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้อะไรสักอย่าง

“ฉันเปลี่ยนสีเล็บใหม่เป็นสีลาเวนเดอร์ด้วยแหละ~”
จู่ ๆ เสียงอาซ้อก็ดังขึ้นมาจากข้างหลังอีก ผมสะดุ้งเฮือกจนเกือบร้อง

ขอบคุณครับอาซ้อ! บอกดี ๆ ก็ไม่ได้ เกือบหัวใจวาย นึกว่าเจ้าของบ้านมันมาซะอีก

“กลิ่นลาเวนเดอร์นี่เองสินะขอรับ...”

คุณแอนเน้าส์พูดทวนอย่างไร้ความหมาย
ฟุ่ว...สำรวจต่อ ๆ

ห้องมืดไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มืดสนิทเสียทีเดียว เป็นห้องที่ใหญ่พอสมควร(น่าจะพอดีตัวเจ้าหมานั่นซุกอย่างอบอุ่น)
มีเสาไม้ปักอยู่ตรงมุมห้องทางซ้าย คงเอาไว้คล้องโซ่คล้องคอของมัน ไม่มีอะไรพิเศษ
อีกมุมนึงมีขวดอะไรสักอย่างตั้งอยู่ น่าจะเป็นกระปุกน้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์กระมัง

จากการสำรวจจนทั่ว ไม่มีอะไรที่น่าจะเป็นกล่องเลย

แห้วรับประทานตามคาด แต่ก็ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย
ผมจึงตัดสินใจหันหลังออกจากห้อง เท้าก็พอดีไปสะดุดอะไรเข้า เลยก้มลงไปดู ปรากฏว่าเป็น...

หนังสือ?

นอกจากจะมีน้ำหอมแล้วหมามันอ่านหนังสือเป็นด้วยเหรอ?
ผมปัดคำถามออกไป พิลึกพิลั่นเกิน...

คิดได้จึงก้มหยิบเอาหนังสือขึ้นมาไว้ในมือ แล้วเดินออกจากห้องก่อน อยู่นานกว่านี้คงไม่ดี

เดินออกจากห้องแล้ว สอดส่องห้องสมุดอีกที ยังเงียบ ๆ อยู่ ผมเลยเอาหนังสือขึ้นมาพลิกดู

‘ตำรามืดมนตร์ศาสตร์’

ชื่อพิลึก แต่อ่านออก ก็ไม่เสียหายที่จะเปิดอ่าน
ไหนพลิกดูซิ...

ยอดเยี่ยม ชัดเลย....!

อ้างอิงจาก :

Hungry(คำอ่าน : ฮังกรี้)
สุนัขสามหัวมันมีขนาดใหญ่กว่าสุนัขทั่วไป กายสีดำนิล นัยน์ตาสีเลือด
ดุดัน แข็งแรง เสียงเพลงที่กล่อมให้มันหลับได้ อีกทั้งมันยังค่อนข้างโง่
ชอบ : หมา กระดูก อะไรที่หมาทั่วไปชอบ เพลง เหล้า
ไม่ชอบ : แมว... สตรีเพศ ตัวตลก อะไรก็ตามที่มีสีส้ม

ชัดเจนมาก และได้รับการพิสูจน์มากพอแล้ว มากเกินกว่าที่จะไม่เชื่อข้อมูลพวกนี้
โชคดีจริง ๆ มีหวังขึ้นมาหน่อย ของที่มีอยู่น่าจะใช้ได้

“แฮ่!!!”

เสียงคำรามของเจ้าหมานั่นเริ่มดังใกล้เข้ามาพอดีกับที่ผมปิดหนังสือ
ท่าทางจะวิ่งไล่จนวนกลับมาแล้วสินะ

เอาล่ะ...ผมจะตอบแทนให้ครับ เจ้าหญิง คุณเนริส จะไม่เสียแรงเปล่าแน่นอนที่ถูกไล่กวด

เหลือแต่ว่า แผนจะเข้าท่าไหม และจะทันบอกหรือเปล่า

โครม!

ท่าทางมันจะมาถึงแล้ว...
หวังว่า เจ้าหญิงกับคุณเนริสจะยังไม่เป็นอะไรมากนะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://s1.zetaboards.com/pkbattle
Princess
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น



จำนวนข้อความ : 42
Join date : 14/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyThu Apr 01, 2010 9:52 pm

..."โครม!" เสียงหัวทั้งสามของเจ้าหมากระแทกประตูห้องที่มันออกมาดังลั่น

..."ตูม"

..."เอ๋ง!!!!" เจ้าหมาร้องดังลั่นอีกครั้ง

..."โฮะๆๆๆๆ" ฉันขำเบาๆ ต้องขอบคุณความฉลาดของฉันจริงๆที่ทำให้เราพอจะมีทางสยบเจ้าหมาบ้านี่

...เพราะอะไรนะเหรอ....


...ไม่กี่นาทีก่อน

..."ทำยังไงดีเนริส เจ้าหมานั่นมันเข้ามาแล้ว" ฉันเอ่ยอย่างหวาดกลัวกับชายหนุ่มข้างๆตัว
เราหลบการโจมตีของเจ้าหมาอยู่ที่บริเวณชั้นหนังสืออีกแห่ง

..."สู้.." เขาเอ่ยเบาๆก่อนจะหยิบมีดคู่ของตนเองออกมา

..." ก็ดี ฉันว่าฉันไม่อยากวิ่งหนีมันแล้ว" ฉันพูดขึ้นแล้วหยิบแส้ประจำตัวออกมา
ก่อนจะลุกขึ้น เตรียมต่อสู้ พลันมือเรียวงามของเนริสได้กดฉันให้นั่งลงที่เดิม

..."อยู่นี่ละ " ตาแก่หน้าสวยพูด และกระโจนออกไปหาเจ้าหมาอย่างกล้าหาญ

..."Blaze of inferno" เจ้าหมากลับต้อนรับร่างอันสวยงามนั้นด้วยเปลวเพลิงอันสวยงาม
หากแต่ร่างสวยของชายหนุ่มกลับหลบอย่างพลิ้วไหว

..."ไฟ....กล่องขยายขนาด...ห้องสมุด...?" ฉันพูดกับตัวเอง ก่อนจะมองไปรอบๆตัว

...ถ้าคิดง่ายๆ ว่าคนที่สร้างห้องสมุดแห่งนี้คือคนๆ เดียวกับที่ปล่อยเจ้าหมาไว้
งั้นก็แสดงว่าเขาต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่นอน อย่างน้่อยๆ
คนไม่มีใครเอาไอ้เจ้าตัวที่พ่นไฟได้มาไว้ที่ห้องสมุดที่ติดไฟง่ายๆ

...ถ้าอย่างงั้น.....แสดงว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆเกี่ยวกับไฟนี่แน่ๆ

...ฉันมองไปทางเนริสที่กำลังทำอะไรซักอย่างที่คล้ายร่ายรำหลอกล่อความสนใจเจ้าหมาสามหัว
อย่างน้อยๆ ก็โล่งใจไปได้หน่อยว่าเนริสจะไม่ต้องกลายเป็นปลาย่างทับทิมกรอบ
หรืออะไรแนวๆ นั้น เพราะเจ้าหมาดูสนใจไม่น้อย

..."คงต้้องทำอะไรเท่าที่ทำได้ละนะ" ฉันถอนหายใจ ก่อนจะมองไปรอบๆ ตัวอีกครั้ง

...มันเป็นห้องสมุดที่สวยงาม หากแต่ว่าหนังสือกลับเก่าแก่ บางเล่มที่ราวกับจะปลิวไปกับสายลม
บางเล่มก็ดูหนาพอจะฟาดหัวใครซักคนตายได้ง่ายๆ

..."แกรก.." ฉันเลือกเล่มหนึ่งในชั้นมาเปิด ก่อนที่ฝุ่นบางๆ จะฟุ้งออกมา
ทุกหน้าของหนังสือล้วนมีอะไรซักอย่างที่คล้ายๆ ราหรืออะไรทำนองนั้นเคลือบอยู่
จะว่าไปไอ้กล่องใหญ่ๆ นั้นก็มีราคล้ายๆ อย่างนี้

...หรือว่า.....

..."บรีท!!!!!" ฉันเข้าสู่สภาพที่ไม่ต้องหายใจ ก่อนที่ภาพแห่งความจริงจะปรากฎขึ้นต่อหน้าฉัน!!!
บริเวณที่ควรโดนไฟเผามอดไปแล้วกลับยังอยู่เช่นเดิม แถมเปลวไฟเหล่านั้นกลับหายไปอย่างไม่ทิ้งร่องลอย

..." หึๆ จริงๆ ด้วยสินะ " ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะป้ายมือไปที่คราบนั้น

...มันคือสปอร์ของรา ซึ่งจะทำให้เห็นภาพหลอน ซึ่งอธิบายได้้ว่าทำไมสิ่งที่พวกเราเห็นจึงดูสับสนวุ่นวายมากนัก...
เอาละนะเจ้าหมาบ้า บังอาจมาทำให้คนสวยๆ อย่างฉันวิ่งหนีลูกไฟปลอมแทบตาย แค้นนี้ต้องชำระ!!!!

..."เมจิก!!!" ฉันใช้เวทย์มนต์สลับร่างตนเองกับหนังสือเล่มหนาที่อยู่ใกล้ตัวเนริส

..."ตาแก่ ถอยไป!!!" ฉันผลักร่างบางนั้นไปข้างหลัง ก่อนจะกระโจนเข้าไปหาร่างของเจ้าหมา
และปาสปอร์ที่ฉันรวบรวมมาเต็มกำมือใส่มันเต็มๆ!!!

..."เอ๋ง!!!" มันร้องอย่างทรมาณ และจู่ๆ ก็หยุด และยืนนิ่ง ฉันถือโอกาสนี้
พาเนริสหนีเจ้าเศษสปอร์ที่เหลือไปอยู่บนชั้นหนังสือ ก่อนจะอธิบายสั้นๆ ให้ชายหนุ่มเข้าใจ

..."โครม!" เสียงหัวทั้งสามของเจ้าหมากระแทกประตูห้องที่มันออกมาดังลั่น
..."ตูม"
..."เอ๋ง!!!!" เจ้าหมาร้องดังลั่นอีกครั้ง

..."โฮะๆๆๆๆ" ฉันขำเบาๆ ต้องขอบคุณความฉลาดของฉันจริงๆ ที่ทำให้เราพอจะมีทางสยบเจ้าหมาบ้านี่
..."ประสาทแดกไปแล้วไอ้หมานั่น...." เนริสพูด

..."จะว่าไป ก็สงสารฮัปปาคิคุงเนอะ" ฉันพูด เพราะว่าสปอร์พวกนี้จะลอยต่ำ
ตอนนี้คงเข้าจมูกไปเต็มๆ และคงเห็นภาพหลอนอะไรตามที่มีเสียงบอก
เพราะการที่เราเห็นภาพหลอนเป็นอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับจิตของเรา
ถ้ามีเสียงอะไรเข้าหู่ จินตนาการจะทำให้มันเป็นจริง

..."แล้วจะเอายังไงต่อ" เีนริสถาม

..."รอจนกว่ามันจะเหนื่อย แล้วค่อยเก็บทีเดียว หรือนายมีความเห็นอะไรที่ดีกว่านั้น"
ฉันตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญนิดๆ เล่นมารบกวนความสนุกของฉันเองนี่นา

..."ฉันว่ามันเหนื่อยแล้ว.." เขาสะกิดเรียกฉัน ก่อนจะชี้ไปทางเจ้าหมาที่ทำหน้ามึนหัว

..."โอเค นายเหนื่อยมามากแล้ว คราวนี้ตาฉัน"

..."เมจิก" พลันกล่องสีดำได้พาฉันมาอยู่หน้าเจ้าหมา ฉันควักแส้สีแดงประจำตัวออกมา
เอาละเจ้าหมา มาสนุกกันเถอะ~!!!

...ฉันฟาดแส้ไปที่ตัวเจ้าหมา ก่อนจะตีลังกาหลบกรงเล็มของมันที่หมายจะขยี้ร่างอันงดงามของหญิง
แล้วฟาดแส้ไปที่หัวกลางของมันที่โชกด้วยเลือด

...และ...

..."Hell fang!!!" พลันหัวทั้งสองของมันกลับพร้อมใจกันลงมางับฉัน ฉันรีบกระโดดหลบไปอีกทาง

..."เกือบไป..." สงสัยว่า จะมีแค่หัวกลางละมั้งที่โดนพิษสปอร์เข้าไปเต็มๆ ส่วนอีกสองหัวได้รับผลน้อยกว่า
เลยควบคุมตัวเองไม่ได้สินะ

..."Hell fang!!!" หัวทั้งสองของเจ้าหมาโจมตีใส่ฉันอีกรอบ
สงสัยว่าฉันคงต้องทำอะไรซักอย่างกับอีกสองหัวที่เหลือแล้วละมั้ง
ฉันรีบหาของที่พอจะใช้สู้กับมันได้ซักพัก และมันคือ.
" STG - 44 Sturmgewehr" หญิงควักปืนออกมา ก่อนจะใส่ลูกกระสุน เล็ง และ ยิง!!

..."ตูม ตูม ตูม" เสียงการต่อสู่ของปืนกับหมาดังขึ้น โดยลูกกระสุนปืนนั้นถึงแม้ว่าจะทำอะไรเจ้าหมาไม่ได้
แต่หญิงหวังว่า มันจะดังพอจะปลุกใครซักคนจากพิษของไอ้สปอร์นรกนี่ได้


..."ฮัปปาคิ แอ็คแท็ก!!!!" เสียงตะโกนของเด็กหนุ่มดังขึ้น ก่อนหัวทางซ้ายของเช้าหมาจะโดนโจมตีด้วยใบไม้นับพันๆ
..."ดราก้อน ครอส!!!" คราวนี้หัวขวาของเจ้าหมา ก็โดนโจมตีโดยเนริส
...ในเมื่อทุกคนเอาจริงแล้ว คนสวยๆ อย่างหญิงคนต้องเอาจริงบ้างละ

..."อบาดรา....." ฉันตะโกนก่อนจะยกมือขึ้นสองข้าง และหมุนตัวช้าๆ ราวกับร่ายรำ ก่อนจะหยุด แล้วกางแขน
..."คาดัฟรา!!!" พลันชั้นหน้องสือทั้งหมดก็โดนดูดมาอยู่บริเวณรอบๆตัวฉันราวกับเกิดพายุสีดำขนาดใหญ่

..."หมาสามหัว มันต้องเจอหมาสามหัวของจริง จงออกมา ผู้เฝ้าประตูนรก!!!!"
ฉันในร่างที่เกือบเปลือยตะโกนก้อง ก่อนที่พายุสีดำนั้นจะค่อยๆ รวมตัวกัน...
กลายเป็นหมาสามหัวที่ตัวใหญ่ล้นเพดาน!!!


..."ถ้าแกคือความหิวกระหาย หมาสามหัวตัวนี้คือผู้หิวกระหายยิ่งกว่า!!!" ฉันตะโกนอีกครั้ง
พลันหัวทั้งสามของหมายักษ์พุ่งเข้าพร้อมใจกันโจมตีเจ้าหมาที่ตัวเล็กกว่าทันที
เสียงร้องโหยหวนของเจ้าหมาดังขึ้นทั่วห้องสมุดแห่งนี้ พลันเลือดสีแดงของมันพลันค่อยๆ
ไหลลงมาเป็นทางสีแดงดูน่าสยดสยองสุดๆ

..."แกแพ้ฉันแล้ว!!!" ฉันร้องก่อนที่ร่างของเจ้าหมาจะทรุดลงไป.....

...และ..

...สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!!

..."H U N G RY " เจ้าหมาตะโกนก้อง ก่อนที่โซ่นับพันๆ จะพุ่งเข้าโจมตีร่างอันเปลือยเปล่าของฉัน

...แต่ฉันไม่ยอมโดนคนเดียวหรอกเฟ้ย!!!!

..."ฟลามิงโก้ ลิ้งค์!!!!" พลันแส้สีแดงสดของฉันพุ่งเข้าหาหัวกลางอันโชกเลือดของเจ้าหมาตัวเล็ก
พอดีกับที่โซ่เหล่านั้นโจมตีเข้าใส่ร่างฉัน พลันความอ่อนเพลียทำให้ร่างกายไม่อาจตั้งตรงได้
ทรุดไปกับพื้นทันที !!! ร่างสีดำทะมึนของหมาสามหัวใหญ่ก็พลันสลายกลับสู่สภาพเดิมของมัน

...แน่นอน...


...เจ้าหมาก็เช่นกัน..

...หลังจากนั้นฉันจำภาพอะไรไม่ได้นอกจากหล่อส้มที่เดินออกมาถามประมาณว่า มันตายหรือยัง

...เนริสกับฮัปปาคิที่ร่วมกันจัดการร่างที่หมดแรงของเจ้าหมา

...และแล้วเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาสแห่งความอ่อนเพลียของฉัน..

..."สมกับเป็นศิษย์ของฉันจริงๆ " เสียงของท่าอาซ้อเอ่ยขึ้นจากที่ใดซักแห่งในห้องสมุดนี้
ก่อนที่อะไรบางอย่างจะตกลงมาใส่ตัวฉัน...

..."รับไปซะ มันช่วยแก้พิษของเจ้าหมานี้ได้..."

..."ไปละ ทุกคน อย่าลืมไปเอากล่องมานะ..."

...สิ้นเสียงอาซ้อ ฉันค่อยๆ ใช้มืออันไร้เรี่ยวแรงเปิดกล่องขนาดเล็กนั้น พบว่าในนั้นมียาอะไรซักอย่างอยู่
ฉันรีบเปิดฝามัน และดืมเข้าไปทีเดียวหมดจนไม่ทันได้รู้สึกถึงรสชาติ

..."อ้อ อย่าลืมอีกอย่าง!!!" เสียงของอาซ้อดังมาจากกล่องที่ใส่ยาน้ำนั่นเอง!!!

..."ฉันสวย..."

...ขอบคุณค่ะอาซ้อ.... .



...................

สารภาพว่าเทรินนี่อ่าวแล้วรู้สึกว่าห่วยมาก
ขึ้นไปข้างบน Go down
Howling
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น



จำนวนข้อความ : 13
Join date : 27/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptySun Apr 04, 2010 10:49 pm

แจ้งเลทครับ

มีอุบัติเหตุนิดหน่อย

จะส่งภายในวันพรุ่งนี้ครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
Howling
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น



จำนวนข้อความ : 13
Join date : 27/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyMon Apr 05, 2010 11:09 pm

ฉันปักมีดลงกลางหัวข้างหนึ่งของเจ้าหมายักษ์


มันกระเสือกกระสนดิ้นทุรนทุรายอยู่ไม่ถึงห้านาทีก็แน่นิ่งลง...


มองจนแน่ใจแล้วว่าเจ้าหมาไม่ขยับเขยื้อนอีกฉันก็ดึงมีดขึ้น
สะบัดคราบเลือดสีดำสกปรกออกจากปลายมีดแล้วสอดเก็บเข้าซองหนังที่คาดไว้ด้านหลัง
กอดอกแล้วใช้ปลายเท้าเขี่ยหัวมันเบาๆอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่ามันตายแล้วและนิ่งสนิท


มันยังคงนิ่ง


แต่ฉันก็อดระแวงไม่ได้ มือจับกุมด้ามมีดอย่างเผลอตัว


ในรอบที่แล้ว ไอ้พวกสัตว์ประหลาดที่เป็นอุปสรรคนั่นเล่นงานจนท้องส่วนหนึ่งพอง
ใช้เวลาซักพักหลังการแข่งจบ ถึงจะรักษามันจนหายสนิทได้


แต่ถ้ามันเหลือรอยแผลเป็นละก็
ฉันต้องหาทางฆ่าไอ้คนสร้างสัตว์ประหลาดนั่นให้ได้ คอยดูเถอะ


แตะมือลงบนหน้าท้องที่เคยมีแผลพองบวมอย่างนึกขยาด
สายตายังคงมองซากสีดำสนิทนั่นอย่างไม่ไว้ใจ...


“ถ้างั้นก็...ขอหน่อยเถอะ”ฉันพึมพำก่อนจะยกเท้าขึ้น...


โผละ...


แล้วขยี้ลงบนหัวหัวหนึ่งของเจ้าหมาดำจนแตกกระจาย
เศษไขมันที่เคยเป็นสมองกระจายในบริเวณเล็กๆ ส่งเลือดสีดำทะลักออกมาจากซากหัวของเจ้าหมานั่น
กระเด็นเปรอะขากางเกงฉันไปส่วนหนึ่ง ลูกตาหลนทะลักออกมาจากเบ้า
กลิ้งเกลือกไปมาจนชุ่มเลือดสีดำ คงเหลือเพียงส่วนของฟันกรามซึ่งยังพอจะทำให้เดาออกบ้างว่ามันเคยเป็นตัวอะไรมาก่อน


แถมมีตั้งสามหัว


ต่อให้แหลกไปซักหัวก็คงพอดูออกแหละน่าว่าเป็นตัวอะไรมาก่อน


สะบัดเท้าไล่คราบเลือดที่ติดตามรองเท้าออกแล้วก้าวไปหายัยเจ้าหญิงที่ยังนอนหมดแรงอยู่


ไม่อยากยอมรับ


แต่ครั้งนี้หล่อนช่วยฉันไว้จริงๆ


ฉันเอื้อมมือลงไปหาในขณะที่ยัยเจ้าหญิงนั่นเลิกคิ้วน้อยๆอย่างประหลาดใจและพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง
ให้อยู่ในสภาพที่พอจะสนทนากับฉันได้


“อะไรกัน...ชะนีเทียมอย่างหล่อนก็อยากแตะตัวหญิงใช่มั้ยล่า~”หล่อนเอามือปิดบังร่างเปลือยเปล่านั่นอย่างดัดจริต
รู้ได้ไม่ยากว่าทำท่าทีเขินอายไปอย่างเรียกร้องความสนใจ


ฉันเบะปาก
เบ้หน้าน้อยๆอย่างสะอิดสะเอียนกับมารยาของหล่อน หากก็พูดออกไป


“ขอบใจที่ช่วยไว้”


หล่อนไม่ได้ว่าอะไรตอบกลับมา
ระบายรอยยิ้มน้อยๆแล้วจับรั้งมือของฉันเพื่อพยุงตัวขึ้นยืน
ทั้งฮัปปาคิและแอนเนาซ์เซอร์ไม่กล้าแม้แต่จะหันมองหล่อนเลยทีเดียว


ฉันเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะหันมององค์หญิง...


...แล้วก็รู้สาเหตุ...


“แล้วนี่” ยัยองค์หญิงสะบัดผม
หันมองมาทางฉัน อวดเรือนร่างอวบอิ่มสมเป็นหญิงสาวของหล่อนทุกมุม
กรีดเสียงหวานลงอย่างใส่จริต “ชะนีเทียมอย่างหล่อนไม่มีแบบฉันใช่มั้ย~?”


เข้าใจว่านั่นคงไม่ใช่คำถาม


เพียงไหวไหล่แล้วตอบกลับไปบ้างตามที่คิด


“ฉันเห็นมาเยอะแล้ว”


ไม่ได้โกหก...


...ไซเรนตัวอื่นใส่เสื้อผ้ากันซะที่ไหน...


ยัยองค์หญิงนั่นเชิดหน้าใส่ฉันอย่างไม่สนใจ
ท่าทางคงอยากจะกรี๊ดเต็มทีแต่ก็กลั้นใจไว้เพราะต่างก็มีบุญคุณต่อกัน


ทั้งฮัปปาคิและแอนเนาซ์เซอร์ยังคงไม่กล้ามองเรือนร่างเปลือยของยัยองค์หญิงนี่เลย


ปล่อยไว้แบบนี้ ไปไหนต่อไม่ได้กันพอดี


ใช้เวลาตัดสินใจอีกไม่นาน
ฉันก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกแล้วยื่นให้องค์หญิง


หล่อนมองกลับอย่างไม่เข้าใจ
เรียวคิ้วงามเลิกขึ้นน้อยๆเป็นเชิงว่าไม่เข้าใจในการกระทำของฉัน


“ใส่ซะ” พาดเสื้อเชิ้ตลงบนไหล่บางเล็กนั่นแล้วชักมือกลับมากอดอก
“สองคนนั่นไม่กล้ามองเธอแบบนี้ เราจะไปต่อกันได้ยังไง”


องค์หญิงปรายสายตากลับไปทางฮัปปาคิและแอนเนาซ์เซอร์พลางหัวเราะคิกคัก


“แหม~มองก็ได้นะคะ หญิงเต็มใจ๊
เต็มใจให้ดู~~”


“ใส่เร็วๆเข้าน่า” เอ่ยเร่งหล่อนอย่างเกือบอารมณ์เสีย ซึ่งยัยเจ้าหญิงคงจะรู้
มือเรียวเล็กจึงรั้งเสื้อเชิ้ตสีขาวของฉันไปสวมเข้าง่ายๆ ติดกระดุมเม็ดล่างกันไม่ให้มันหลุด
ไปสองสามเม็ดแล้วสะบัดเรือนผมไปด้านหลัง เสื้อเชิ้ตนั่นยาวไปจนถึงบริเวณโคนขาของหล่อน
แม้จะทำให้ดูราวกับเพิ่งไปทำกิจกรรมอะไรมาซักอย่าง แต่ฉันก็ว่ามันเรียบร้อยกว่าร่างเปลือยนั่นเยอะ


“พวกนายสองคนหันกลับมาได้แล้ว”
ฉันเอ่ยเรียก ทั้งสองคนค่อยๆเบือนหน้ากลับมาแต่โดยดี
ฮัปปาคิหน้าแดงนิดๆอย่างสมกับเป็นเด็ก
และท่าทางคงจะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงเท่าไหร่นัก


ส่วนเจ้าปิเอโร่สีส้มนั่น สีหน้าออกไปทางขนผองสยองเกล้าเสียมากกว่าที่เห็นภาพนั่น


ยัยองค์หญิงเดินยักย้ายเข้าไปหาแล้วกอดแขนมันทันที


“หล่อส้มขา~~~ หญิงสวยมั้ย~”ว่าพลางทำท่าดัดจริตใส่มารยา
เบียดไถหน้าอกเข้ากับแขนของปิเอโร่ซึ่งทำหน้าสยดสยองปนทำอะไรไม่ถูก


ตูละเบื่อ...


ฉันกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะก้าวนำไปทางห้องที่เจ้าหมาสามหัวนั่นเคยเฝ้าอยู่


เมื่อเข้าใจว่าทุกอย่างเกิดจากสปอร์เห็ดที่ทำให้เกิดภาพลวงตา
ก็นึกอยากจะเห็นเจ้ากล่องนั่นของจริงขึ้นมาทันที


และอยากรู้ว่าอะไรภายในนั้นที่สำคัญถึงขนาดต้องใช้กลยุทธ์กลวิธีมากมาย
ในการซ่อนมันไว้ให้พ้นจากของคนนอกอย่างพวกเรา


กล่องที่อยู่ตรงหน้าเป็นกล่องขนาดย่อม
กว้างยาวไม่น่าจะเกินสองนิ้ว แต่ก็ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนาพอควร
เหล็กที่ใช้บุให้กล่องแข็งแรงทั้งเก่าและมีสนิมเขรอะไปตามกาลเวลา
ลวดลายที่สลักเสลาอยู่บนแผ่นไม้นั่นทำให้คิดไปว่าครั้งหนึ่ง มันเองคงจะสวยน่าดู


ความอยากรู้เรียกร้องให้มือของฉันดึงมีดขึ้นจากซองหนัง


มันเป็นมีดแบบพิเศษที่ทำจากเขี้ยวมังกร


และฉันก็มั่นใจพอสมควรเลยว่ามันต้องตัดกุญแจเหล็กเขรอะสนิมท่าทางกรอบแกรบนี่ออกแน่ๆ


แต่...


มันเป็นความคิดที่ผิด


เคร้ง!!


เคร้ง!!


เคร้ง!!


จนกระทั่งความพยายามครั้งที่สามไม่สัมฤทธิ์ผล
ฉันจึงเก็บมีดเข้าซองหนังแล้วลุกขึ้นยืนอย่างหงุดหงิด


โครม!


วาดขาเตะไอ้กล่องนั่นเต็มแรงไปหนึ่งครั้งแล้วค่อยยกมันขึ้น


ไม่ได้หนักเลยแม้แต่น้อย


ให้ตายเถอะ..


เกลียดไอ้สปอร์เห็ดนรกนั่นเป็นบ้า....


ฉันยกกล่องแล้วเดินออกมา เกือบจะสวนทางกับฮัปปาคิที่กำลังจะเข้ามาช่วยถือไอ้กล่องนั่น
ท่าทางเก้ๆกังๆอย่างที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ทำให้เดาเอาเองว่าคงจะมาช่วยถือกล่อง
พร้อมๆกับพยายามหลบสายตาไม่มองเรือนร่างของยัยองค์หญิงนั่นแน่ๆ


“ผมช่วยมั้ยครับ?”


“ยังไม่เป็นไร” โยนกล่องไปมาในสองมือทำให้เห็นว่าน้ำหนักของมันไม่ได้มหาศาลเกินแรงของฉันนัก “ไม่หนัก”


เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะนิ่งงันอยู่อย่างนั้นแบบทำอะไรไม่ถูก


ราวกับเป็นเวลาพักผ่อนหย่อนใจหลังได้รับชัยชนะ
สถานการณ์ เงียบสงบอย่างน่าประหลาดใจ


ครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงของอาซ้อจะดังมาจากหูฟังของเจ้าปิเอโร่สีส้มนั่นอีกครั้ง


...อาจจะเป็นฉันคนเดียวที่คิดไปว่า...


...เสียงของยัยซ้อนี่มักจะนำพาเรื่องหายนะมาให้เสมอ...


“ให้ไปที่โบสถ์ใจกลางเกาะอย่างเร่งด่วน“



..ใจกลางเกาะ?


แปลว่าคงมีเหตุผลการที่เรียกพวกเราออกมาทำภารกิจในตอนกลางดึกแบบนี้..


การที่เรียกออกไปมีสาเหตุที่ควรจะเป็นไปได้อยู่สองอย่าง


หนึ่ง,ภารกิจและความวุ่นวายทุกอย่างจบ
และฉันจะได้กลับไปพักสบายๆในห้องพักของฉัน


สอง,ทุกอย่างจะรุนแรงกว่าเดิม
และฉันยังต้องออกแรงอีกมาก


นั่นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไหร่
เพราะตั้งแต่การแข่งรอบที่แล้ว ฉันยังไม่ได้หลับเลยซักงีบ


การพักที่มากที่สุดคือการแช่น้ำแล้วก็ดื่มน้ำ


อยากกลับไปนอนพักจะตายชักอยู่แล้ว


สิ้นเสียงนั่น
พวกเราต่างก็เงียบไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ก่อนที่แอนเนาซ์เซอร์จะเป็นตัวเริ่มบทสนทนาขึ้นอีกครั้ง“แล้วคุณเนริสไม่ใส่เสื้อหรือขอรับ”


“ให้ยัยเจ้าหญิงไปเหอะ”ฉันพยักเพยิดไปทางยัยองค์หญิงที่ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัว
มีแต่เสื้อเชิ้ตของฉันเท่านั้นที่พอจะปิดบังเรือนร่างบอบบางของหล่อนเอาไว้ได้


“แล้วคุณ...”


“ฉันเป็นผู้ชาย ไม่ได้มีอะไรเสียหายตรงไหน”ว่าพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วโยนกล่องไม้ในมือให้ฮัปปาคิ
“เอ้า ถือไว้ที ฉันใช้อาวุธสองมือ”


เด็กหนุ่มรับไปโดยง่าย ถือทะนุถนอมราวกับมันเป็นสิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียว


เดาว่าถ้าเราไม่ได้กลับไป


ยัยซ้อคงจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงพอดูที่เราทำภารกิจไม่สำเร็จ


“งั้นก็ไปกันเถอะหล่อส้มขา~” องค์หญิงดึงมือของแอนเนาซ์เซอร์ไปทางประตูออกจากหอสมุด
แต่สีหน้ามีความเสียดายเจือจางอยู่ บางทีหล่อนคงอยากจะนั่งอ่านหนังสือที่นี่ดูเหมือนกัน
“หญิงอยากกลับไปนอนพักแล้วค่ะ~”


เจ้าตัวตลกส้มเดินตามไปอย่างไม่มีทางเลือก


ฮัปปาคิหันมามอง ฉันพยักหน้าเป็นเชิงให้เขาเดินไปก่อน เด็กหนุ่มเดินตามเจ้าปิเอโร่กับยัยองค์หญิงไปอย่างว่าง่าย


คิดอยู่เหมือนกันว่าบางทีฉันน่าจะเดินนำขบวน อย่างน้อยเผื่อมีอะไรกะทันหัน
อาวุธระยะใกล้คงได้เปรียบกว่าอาวุธระยะกลางอย่างสองคนนั่น


แต่อยู่ปิดขบวนก็สำคัญพอกัน


ฉันก้าวขาตามออกไปจากห้องสมุด ลมทะเลพัดเยือกไม่ได้ทำให้ฉันหนาวแม้แต่น้อย
ผิดกับยัยองค์หญิงซึ่งคงหนาวช่วงขาที่ไม่มีอะไรปิดบังไม่น้อย


“อั๊ย~! หนาว!”หล่อนว่าพลางเสียดสีขาไปเพิ่มความอบอุ่น


ถ้าเสื้อผ้าของหล่อนไม่ได้หายไปเพราะว่าช่วยพวกเรา


ฉันคงสมน้ำหน้าหล่อนไปแล้ว


เพราะการที่เคยชินกับลมทะเลยามค่ำคืนทำให้แม้จะไม่ใส่เสื้อ แต่ก็ไม่ได้หนาวเลยซักนิด


ไม่รู้ว่าเกาะนี้กว้างเท่าไหร่


แต่คำนวณเอาคร่าวๆ ใจกลางเกาะคงใช้เวลาเดินไม่มากนัก


เพราะยัยซ้อนั่นเรียกแบบปัจจุบันทันด่วนขนาดนี้ แถมยังบอกว่าโดยเร็วอีกต่างหาก


อาจจะราวๆสิบนาที....


แค่คิดฉันก็รีบเร่งฝีเท้าของตัวเองขึ้น


หวังว่าจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายรออยู่ข้างหน้าหรอกนะ


แก้ไขล่าสุดโดย Howling เมื่อ Tue Apr 06, 2010 9:04 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน Go down
King
กษัตริย์แห่งนคร
กษัตริย์แห่งนคร
King


จำนวนข้อความ : 174
Join date : 04/01/2010
: 24

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyTue Apr 06, 2010 7:52 am

เปิดโหวต ถึง 8 เมษา
ขึ้นไปข้างบน Go down
zilvilia
ผู้เริ่มต้น
ผู้เริ่มต้น
zilvilia


จำนวนข้อความ : 35
Join date : 14/02/2010

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyTue Apr 06, 2010 8:20 pm

Happaki

บรรทัดอ่านง่ายสบายตา 10/10
คะแนนฟรีอยู่แล้ว ถ้าอ่านได้น่ะ

ถ้อยคำสละสลวย ภาษาไทยถูกต้อง 10/10
คำผิด : ไม่พบ
การใช้ภาษา : โอเค

ลักษณะการใช้ NPC และพื้นที่ที่จัดมาให้ 10/10
คะแนนฟรีเหมือนกันแหละ

เนื้อ เรื่องไหลลื่น มีลูกเล่น มีเหตุผล สนุก น่าติดตาม 20/20
เวิร์คครับ... เวิร์ค



Princess

บรรทัดอ่านง่ายสบายตา 10/10
คะแนนฟรีเช่นกัน

ถ้อยคำสละสลวย ภาษาไทยถูกต้อง 9/10
คำผิด : (เหมือนจะ)ไม่พบ
การใช้ภาษา : โอเค
อื่นๆ : สรรพนาม "ฉัน" เกร่อไปหน่อยนะ

ลักษณะการใช้ NPC และพื้นที่ที่จัดมาให้ 10/10
คะแนนฟรีเหมือนกันแหละ

เนื้อ เรื่องไหลลื่น มีลูกเล่น มีเหตุผล สนุก น่าติดตาม 20/20
ถือว่าโอเคเลยแหละ



Neris

บรรทัดอ่านง่ายสบายตา 10/10
คะแนนฟรีอีกน่ะแหละ

ถ้อยคำสละสลวย ภาษาไทยถูกต้อง 10/10
คำผิด : ไม่พบ
การใช้ภาษา : โอเค

ลักษณะการใช้ NPC และพื้นที่ที่จัดมาให้ 10/10
คะแนนฟรีเหมือนกันแหละ

เนื้อ เรื่องไหลลื่น มีลูกเล่น มีเหตุผล สนุก น่าติดตาม 20/20
น่าสนใจทีเดียว


กินกันไม่ลงจริงๆ

แต่ผมขอให้ Neris ละกันครับ =w=" ผมถูกใจกับการบรรยายของเค้า ฉากแรกของเทิร์นหก เอาซะกินข้าวแทบไม่ลง เห็นภาพหมาชัดมากๆ =w="

ปล.เลือกไม่ถูกจริงๆ นะเนี่ย...
ปล2.ปุ่มเสมออยู่ไหนเนี่ย~~~*
ขึ้นไปข้างบน Go down
King
กษัตริย์แห่งนคร
กษัตริย์แห่งนคร
King


จำนวนข้อความ : 174
Join date : 04/01/2010
: 24

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyTue Apr 06, 2010 8:23 pm

zilvilia พิมพ์ว่า:

ปล2.ปุ่มเสมออยู่ไหนเนี่ย~~~*

อ๊ะ ลืมปุ่มนี้ =w=~
ขึ้นไปข้างบน Go down
King
กษัตริย์แห่งนคร
กษัตริย์แห่งนคร
King


จำนวนข้อความ : 174
Join date : 04/01/2010
: 24

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyThu Apr 08, 2010 4:28 pm

happaki kumochi /เจ้าหญิง / Neris Fasilvia / - 80

กินกันไม่ลงเลยทีเดียวถ้าให้พูดถึงนะ... ให้เสมอ~
ขึ้นไปข้างบน Go down
King
กษัตริย์แห่งนคร
กษัตริย์แห่งนคร
King


จำนวนข้อความ : 174
Join date : 04/01/2010
: 24

[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)   [เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ) EmptyFri Apr 09, 2010 8:09 am

Neris Fasilvia เป็นฝ่ายได้รับคะแนนเสียงที่มากกว่า

ได้ 1 คะแนจากคนโหวต 2 คน
ให้ ดำเนินการแต่งเทิร์นจบไปตามที่โจทย์กำหนดให้มีข้อสงสัยติดต่อที่แชทบ๊อก หลังไมค์ เป็นต้น
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
[เปิดโหวตภารกิจกลุ่มที่ 3] happaki kumochi / เจ้าหญิง / Neris Fasilvia (เนริสแต่งเทิร์นจบ)
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» [ปิดโหวต] : Hanzai Vs. เจ้าหญิง เข้าเส้นชัยโดยพร้อมเพียงกัน!!!
» [ปิดโหวต] : Neris VS. BAT BAT เข้าเส้นชัย!!!!!!!
» [ปิดโหวต] : kumochi Vs. Emy Selfy Wong เอมี่เข้าเส้นชัย!!~
» [เสร็จสิ้น]ฮัปปะคิ คุโมจิ - ผู้พิทักษ์แห่งผืนป่า
» [ห้องพักเบอร์ 12] kumochi

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Original original fiction fighting :: ปราสาทกษัตริย์ :: ลานประลองแห่งกษัตริย์-
ไปที่: