“เฮ้อ ให้ตายสิ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันเลย”
จะให้ไม่เหนื่อยได้ยังไงไหว ก็ในเมื่อเพิ่งจะผ่านภารกิจแรกอย่างเฉียดฉิว โชคดีนะที่เสมอกันกับเจ้าหญิง
เมื่อตอน ก่อนจะเข้าห้อง คุณเธอก็เพิ่งจะทำตาเขียวใส่ ก่อนจะปิดประตูกระแทกอย่างประชดประชัน ผมคงโดนเกลียดแล้วสินะ=_=
ชายหนุ่มผมสีทองประกายระยิบระยับ บ่นรำพึงรำพันด้วยสีหน้าหน่ายๆ ก่อนจะจัดการถอดเสื้อตัวนอกไว้ที่ตะกร้าข้างตู้เสื้อผ้า
“เอาเหอะ นอนพักเอาแรงเก็บไว้เพื่อวันพรุ่งนี้จะดีกว่า”
เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม ก่อนจะค่อยๆเคลิ้มหลับอย่างสนิท………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภายใต้ความมืดในห้วงนิทรา หนุ่มน้อยหน้าละอ่อนกลับกำลังเผชิญอยู่ในความมืดมิด ที่เต็มไปด้วยม่านหมอกและกลุ่มควันสีเทา ที่ลอยเคว้งจนทำให้มองเห็นทัศนียภาพไม่ถนัดตา
“หนาว ข้าหนาว”เสียงแหบพล่านที่ชวนขนลุกดังขึ้นอยู่ ณ.ที่มุมใดมุมหนึ่งของความมืด
“นั้นใครขอรับ”
เขาตะโกนถามเสียงนั้น มันทำให้ร่างกายของเขาเหน็บหนาว เย็นจับขั้วหัวใจ
“หิว ข้าหิวเหลือเกิน”“เฮ้ นั้นผู้ใดขอรับ”
สายตาของเขาเริ่มที่จะกวาดมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แต่ภายใต้กลุ่มควันและความมืด จะมีสิ่งใดให้เห็นกัน
“ข้าเปลี่ยวเหงา ข้าอยากได้ใครสักคน...”“คุณอยู่ไหนขอรับ”
เสียงนั้นยังคงดังต่อ และดูท่าทีจะชัดขึ้นเรื่อยๆราวกับ บางอย่างจะมาพรากลมหายใจของเขา
“ข้ารู้สึกสับสน สับสนมากๆ”“ตอบผมที! นั้นใครขอรับ”
ร่างกายของชายหนุ่มเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ เรี่ยวเริ่มที่จะหายไป ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาคิดคือ...อยากออกไปจากที่นี้
“ที่นี้เงียบเหลือเกิน เงียบสงัดวังเวง ข้าต้องการ...ใครสักคน”เสียงนั้นดังราวเสียงกระซิบที่หลังต้นคอของเขา และเมื่อเขาหันหน้าไป!!
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!”ชายหนุ่มกรีดร้องสะดุ้งตื่น หน้าตาซีดเซียว ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างด้วยความตกใจราวกับได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่หน้ากลัว
เม็ดเหงื่อไหลทั่วท้นตามร่างกายที่เปลือยเปล่า เขารู้สึกเย็บวาบราวกับมีใครสักคนนำน้ำแข็งมาทาบที่กลางอกของเขา
ราวกับบางอย่างของเขาได้ถูกช่วงชิงไป
“ฝัน..... โชคดีที่เป็นฝัน”
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกกับเรื่องราวที่ได้เจอในห้วงนิทรา มือเรียวงามทั้งสองกุมลูบไปทั่วใบหน้าเพื่อปาดเหงื่อไคล
“เฮ้อ~”
“มาเร็วๆนะ ฉันจะรออยู่.....หึหึหึหึ”เสียงแผ่วเบาดังขึ้นตรงหน้าต่างที่ถูกเปิดออกตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจรู้ได้ เขาหันไปมองด้วยดวงตาที่ตกตะลึง
ก่อนที่จะทันได้เห็นเงาประหลาดที่ทิ้งเพียงเสียงหัวเราะชวนขนลุกให้ลอยตามสายลม
“หึหึ ฉันจะรอ...ฉันจะรอ”ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามชะโงกหน้ามองหันซ้ายแลขวาก็ไม่อาจได้เห็นสิ่งใดนอกจากวิวภายนอกหอพักในยามราตรีกาล
“นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน...”
เขาบ่นพึมพำก่อนจะปิดหน้าต่างให้เหมือนเดิม แล้วหันหลังกลับเพื่อไปนั่งคิดอะไร แต่แล้วสิ่งที่สะท้อนมาให้เห็นภายใต้กระจกเงาตรงมุมห้อง....
กลับเป็นรอยสักประหลาดที่ถูกประทับไว้บนอกของเขา
“บ้าชัดๆ....”
ชายหนุ่มได้แต่พึมพำด้วยความรู้สึกสลับสับสนปนเป พลางใช้นิ้วมือลูบไปตามรอยสักสีดำนั้น