ลงสมัคร!
ได้ปิดท้ายสมใจอยากแล้ว หฃ
ตลาดแห่งนี้มีแต่ร้านค้าแผงลอยที่อยู่ในสภาพระเกะระกะ ไม่มีพ่อค้า ไม่มีแม่ค้า และยิ่งลูกค้าย่อมไม่ต้องกล่าวถึง
ตลาดแห่งนี้เงียบเหงา...
เปล่าเลย ตลาดแห่งนี้กลับยิ่งวุ่นวาย เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกจากข้าวของหล่นพัง คำสาปแช่งนานาชนิด หากแต่คนพวกนี้ไม่ใช่พ่อค้า แม่ค้า หรือกระทั่งลูกค้า แต่เป็นร่างแยกจำนวนมากของโฆษกในการแข่งขัน "แอนเนาส์เซอร์" และผู้เข้าแข่งขันอีกสี่คน
เจ้าหญิงจอมวุ่นวาย คุโมจิ นินจาฮันไซ และสมิงหนุ่มเฮไลน์
"กรี๊ด หล่อส้มขา มามะ มาให้หญิงจับซะดีๆ"เจ้าหญิงที่มีนัยน์ตาลามกลุกวาววิ่งไล่ตามตัวตลกสีส้มที่พยายามออกวิ่งหนีสุดตัวหน้าตาตื่นตระหนกราวกับเพิ่งผ่านเหตุการป่าช้าแตกมาก็มิปาน
แม้แอนเนาส์เซอร์จะรวดเร็วปานพายุ แต่ไหนเล่าจะสู้แรงตัณหาอันแรงกล้ายิ่งกว่าช้างตกมัน เจ้าหญิงกระโจนเข้าตะครุบร่างสีส้มเพรียวบางนั้น แต่เจ้าหญิงก็คว้าได้เพียงอากาศเปล่า ... แอนเนาส์เซอร์นั้นเป็นเพียงตัวปลอม เจ้าหญิงกระโดดจับกบหน้่าคว่ำลงในคูน้ำคลำที่อยู่ในข้างทางเดิน
"กรี๊ดดดดดดดดด สกปรก สกปรกที่สุด" เธอกรีดร้องเหมือนบ้า ตาทั้งสองของเธอพร่าไปเพราะน้ำเข้าตา สองมือของเธอไขว่คว้าหาอุปกรณ์ทำความสะอาด
สัมผัสนุ่มปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้ว ลักษณะคล้ายผ้ามีขน... ใช่แล้วผ้าขนหนู
เจ้าหญิงรีบหยิบมันขึ้นมาเช็ดหน้ารัวๆ ด้วยความรังเกียจของเหลวดำคล้ำบนใบหน้า
น้ำคลำถูกเช็ดออกหมด เจ้าหญิงลืมตาขึ้นอีกครั้ง และเธอก็ส่งกรี๊ดลั่นออกมาจากแก้วน้ำแตก เมื่อพบว่าผ้าที่เธอใช้เช็ดหน้า มันคือผ้าเช็ดเขียงหมูของแม่ค้า
"โฮ๊ะๆๆๆๆๆ น่าสงสารจริงนะครับเจ้าหญิง" แอนเนาส์เซอร์ปรากฏขึ้นบนเขียงหมูใกล้ๆเจ้าหญิงพร้อมเสียงหัวเราะเยาเย้ย
"ให้อภัยไม่ได้ หล่อส้ม! มาให้หญิงจับซะดีๆ"เ้จ้าหญิงทรงตัณหากรีดร้องลั่นลุกขึ้นออกวิ่งตามแอนเนาเซอร์ที่ออกวิ่งไปก่อนพร้อมหน้าตายียวน
_______________-
"แงๆ"เสียงร้องไห้ของเด็กหนุ่มในชุดนักเรียน ดังจ้า คุโมจิเลิกล้มความพยายาม ทิ้งตัวลงนั่งสะบัดขาร้องไห้อยู่บนพื้นตลาด หลังจากที่โดนแอนเนาส์เซอร์แกล้งจับถอดกางเกง
"โอ๋ๆๆๆ อย่าร้องนะขอรับ"แอนเนาส์เซอร์ ลูบหัวปลอบ แต่สีหน้านั้นยังยิ้มสะใจไม่มีแววสำนึกผิดแม้แต่น้อย
"อย่ามายุ่งเลยนะ!"คุโมจิปัดมือของแอนเนาส์เซอร์ออกไป น้ำตายังนองหน้่า
"โอ๋ๆๆ ก็ได้ขอรับ ก็ได้ยอมแพ้แล้ว ให้จับแล้วครับ"แอนเนาส์เซอร์ยื่นมือมาใกล้เด็กหนุ่ม สีหน้าของเขาเริ่มดูอ่อนโยน คุโมจิ จ้องหน้าอยู่พักหนึ่งด้วยความไม่มั่นใจในความเป็นมิตรที่รวดเร็วเกินไป แต่รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นทำให้เขาวางใจ เด็กหนุ่มยื่นมือออกไป
ทันทีที่แตะมือของแอนเนาส์เซอร์ ร่างสีส้มอีกร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเหวี่ยงมือ ตบเพี๊ยะเข้าที่กบาลของเด็กหนุ่มจนหน้าคว่ำ เสียงร้องไห้จ้าดังอีกครั้ง
"โฮ๊~โฮะๆๆๆๆ คิดเหรอขอรับว่าแอนเนาส์เซอร์ผู้นี้จะให้จับแต่โดยดี"เจ้าตัวตลกยืนเท้าสะเอวหัวเราะโดยไม่สนใจใยดีเด็กต่อเด็กหนุ่มที่กำลังร้องไห้จ้าอยู่เบื้องหน้า
"ไม่ไหวแล้วนะ"คิโมจิแผดเสียงลั่น เสียงของเขาจากเสียงของเด็กหนุ่มค่อยๆแหบพร่าลงจนน่าสะพรึงกลัว ร่างของเขาค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น ขนสีขาวสะอาดดูอ่อนละมุนงอกขึ้นมาทั่วร่าง ข้ามเนื้อแข็งแกร่งปรากฏขึ้นตามแขนขาและหน้าท้อง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวแก่ดูอำมหิต นิ้วมือเหลือเพียงสามนิ้วมีเล็บคมกริบ ใบหน้าดูคล้ายลิงยักษ์ผิวของเขามีสีน้ำตาลเข้ม เขาตัวใหญ่กว่าแอนเนาสเซอร์หลายเท่าตัว แต่กระนั้น ตัวตลกไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเลย
"โอ๊ะโอ๋ โมโหแล้วเหรอขอรับ"แอนเนาส์เซอร์ยังคงทำท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่างต่อไป
คุโมจิแผดเสียงคำรามลั่น เหวี่ยงกรงเล็บที่ทรงพลังเข้าใส่ แต่ทว่า ร่างของแอนเนาสเซอร์นั้นกลับหายวับไป
ตัวปลอมอีกแล้ว...
"มีแต่กำลัีงสินะขอรับ แน่จริงก็ตามผมให้ทันสิขอรับ"ร่างสีส้มปรากฏขึ้นอีก คราวนี้ไกลจากคุโมจิพอสมควร
คุโมจิแผดเสียงลั่น ออกวิ่งไปหาแอนเนาสเซอร์ แต่เพียงแค่ก้าวแรกเขาก็เสียหลักล้มตึง
แอนเนาส์เซอร์สองตัวที่แอบอยู่สองข้างทางขึงเชือกดักเท้าเขา
คิโมจิเงยหน้าขึ้นมาเสียงร้องอย่างเกรี้ยวกราด แต่เสียงร้องนั้นก็ถูกดับลงด้วยถังใส่ขี้ปลาจากแผงลอยแถวนั้นที่แอนเนาส์เซอร์ตัวหนึ่งวาปเข้ามาครอบใส่หัวเขา ขี้ปลาในถังกระจายเลอะตัวของคุโมจิเต็มไปหมด เสีนงร้องคำรามที่เหมือนอยากจะร้องไห้ ดังลั่นไปทั่วตลาด
____________________-
สองฝีเท้ารวดเร็ววิ่งไปบนทางคอนกรีตของตลาด แอนเนาส์เซอร์และนินจาหนุ่มฮันไซมีความเร็วไม่แพ้กันเลย นินจาหนุ่มยิ้มกระหยิ่มเมื่อวิ่งมาทันตัวตลกสีส้ม
"อย่าดูถูกนินจาโคงะสิขอรับ"
"โอ๊ะโอ๋ เร็วจริงนะขอรับ แต่เขาว่านินจาอิงะเก่งกว่าโคงะไม่รู้กี่ร้อยเท่าเลยนี่ขอรับ" แอนเนาส์เซอร์แหย่ทันที คำพูดเท็จนั้นปลุกอารมณ์เือดขึ้นในใจของนินจาหนุ่มผู้หยิ่งในศักดิื์ศรี เขาเลือดขึ้นหน้าหันมาตวาดใส่ตัวตลกสีส้ม
"ถอนคำพูดนะขอรับ นินจาโคงะ ไม่ได้...อุ้บ!"
เปรี้ยง!
ความโมโหบังตาให้นินจาหนุ่มไม่ทันเห็นป้ายราคาของแผงลอยที่ยื่นเลยเข้ามาในทางเดิน จึงโดนป้ายนั่นฟาดหน้า จนหงายหลังตีลังม้วนสามตลบกลางอากาศล้มตึงหน้าคว่ำลงกับพื้น บนหน้าของเขาช้ำเป็นรอยแดงรูปป้ายสีเหลี่ยมผืนผ้า นินจาหนุ่มถึงกับมึนลุกไม่ไหว
"โฮ๊ะๆๆๆ นี่เหรอขอรับ นินจา"แอนเนาส์เซอร์ ปรากฏร่างขึ้นอีกครั้งบนสายไฟเหนือหัวฮันไซ ตัวตลกทำหน้าทำตาชวนโมโห แลบลิ้น เขย่าสายไฟเล่นเหมือนลิงที่ซุกซนตัวหนึ่ง
นินจาหนุ่มไม่อาจทนต่อคำสบประมาท เขาฝืนแรงลุกขึ้นมาทั้งๆ ที่หน้ายังเป็นรอย
"จะจับให้ได้เลย ระวังตัวไว้ให้ดีนะขอรับ"เขากระโดดตามแอนเนาส์เซอรฺ์ขึ้นไปบนสายไฟ แต่ดูเหมือนแอนเนาส์เซอร์จะเตรียมกาลไว้แล้ว ทันทีที่นินจาหนุ่มกระโดดขึ้นมา ตัวตลกส้มยิ้มแสยะ กระทืบสายไฟอย่างแรงจนขาดสะับั้่น
"เฮ้ย!" นินจาหนุ่มที่ยังไม่ทันตั้งตัวร้องเสียงหลง เขาร่วงลงบนแผงลอยขายผักอย่างแรงจนแผงลอยพังหักครึ่งท่อน แศาผักมากมายกระจายอยู่บนตัวเขา ดูเหมือนหัวเขาจะกระแทกอีกแล้วตอนกล่นลงมา เขามึนมากกว่าเดิมอีก
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ จับให้ได้สิขอรับ"แอนเนาส์เซอร์ยังคงส่งเสียงหัวเราะต่อไป
______________________-
เสียงคำรามดังสนั่นจนแผงลอยทุกแผงในระยะนั้นสั้นครืนเหมือนจะพัง บางที่ถึงกับปรากฏรอยร้าว
เฮไลน์คำรามลั่นด้วยท่า "terror" ของเขา แอนเนาส์เซอร์ที่อยู่ตรงหน้าเขาพลันชะงักงัน อำนาจเสียงคำรามนี้ไม่มีใครสู้ได้
"ยะฮู้ว! เสร็จฉัน!"เฮไลน์ร้องตะโกนอย่างยินพร้อมกับ กระโจนเข้าตะครุบแอนเนาส์เซอร์ที่เขาไล่ล่ามาจนเป็นตัวสุดท้าย
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่อยู่ดี เฮไลน์คว้าอากาศเปล่า เด็กหนุ่มกระโดดจับกบไม่ต่างอะไรกับเจ้าหญิงจอมตัณหาในตอนแรก
"อยู่นี่คร้าบอยู่นี่" แอนเนาส์เซอร์ ปรากฏร่างอยู่ไม่ไกลพร้อมกับหันหลังทำท่าตีก้นชวนหน้ากระทืบ
"ฉันจะจับแกให้ได้เลยคอยดู" เฮไลน์ประกาศกร้าว รีบยันตัวลุกขึ้น แต่เพียงแค่ก้าวแรก เขาก็เหยียบเปลือกกล้วยลื่นล้มคว่ำหน้าลงอีกรอบ
"โฮ๊ะๆๆๆ คราวนี้ผมไม่ได้แกล้งนะขอรับ" แอนเนาส์เซอร์หัวเราะใหญ่เมื่อเห็นความป้ำเป๋อของเด็กหนุ่มยามไม่มีกริชอยู่คู่กาย
"แก!"เฮไลน์ แผดเสียงอย่างเหลืออด เขายันตัวขึ้นใหม่อีกครั้งออกไปยิ่งไปยังแอนเนาสเซอร์ที่อยู่ไกลออกไป เด็กหนุ่มรีบวิ่งโดยคิดเพียงว่าจะให้ไปถึงเป้าหมาย โดยไม่ทันมองสภาพรอบๆ
เจ้่าหญิงวิ่งออกมาจากอีกทางชนผางเข้ากับ เด็กหนุ่มจนล้มกระเด็นทั้งคู่ เฮไลน์ ทรงตัวได้ทันเขาจึงเพียงกระเด็นออกไปไม่ล้ม แต่เจ้าหญิงนั้นกลับกัน เธอไม่มีพื้นฐานด้านการต่อสู้ จึงไม่อาจจะทรงตัวอยู่ได้ ล้มคว่ำลมกับพื้น หน้าจ่ออยู่กับคูน้ำคลำ ห่างไปเพียง 1 ช่วงตัวมด เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่คราวนี้ไม่ได้หน้าคว่ำลงไปเหมือนครั้งที่แล้ว
แต่อนิจจา ชะตาอยากให้เธอเป็นเนื้อคู่กับน้ำคลำ นินจาหนุ่มฮันไซที่ไล่ตามร่างแยกของแอนเนาส์เซอร์ร่างหนึ่งมาเหยียบลงบนป้่ายของแผงลอยที่อยู่เหนือหัวของเจ้าหญิง ซึ่งที่ป้ายนั้นแอนเนาส์เซอร์แอบทาน้ำมันไว้ิ ทำให้เขาลื่นพลัดตกลงมากระแทกหน้าเจ้าหญิงจนหัวทั้งหัวจุ่มลงไปในคูน้ำคลำ
"โอ๊ะ เจ้าหญิง ผมขอโทษด้วยนะขอรับ" ฮันไซรีบลุกขึ้นมาคุกเข่าขอโทษขอโพย
"กรี๊ดดดดดดดด ให้อภัยไม่ได้ ให้อภัยไม่ได้"องค์หญิงกรีดเสียงร้องลั่น เธอลุกขึ้นแว้ดใส่ฮันไซชุดใหญ่ "นี่นายรู้ัมั้ยว่าเครื่องสำอางชั้นแพงนะยะ เห้นมันมันลอกหมดแล้ว แล้วนี่ถ้าเกิดฉันเสียโฉมขึ้นมาจะทำยังไง น้ำนี่ก็สกปรก มีอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้ ถ้าฉันโดนอะมีบ้าขึ้นหัว นอนสลบเหมือนบิ้กดีทูบี นายจะทำยัง.."
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด คุโมจิที่วิ่งร้องไห้หนีแอนเนาสเซอร์มาจนไม่ทันดูทางพุ่งเข้าแหวกกลางทั้งสองอย่างรวดเร็ว เจ้าหญิงล้มกลับไปอยู่ที่ชอบที่ชอบอีกครั้ง...
"กรี๊ดดดดดดดด หญิงไม่ยอม หญิงไม่ยอม" เธอได้แต่สะดีดสะดิ้งส่งเสียงกรีดร้องลั่น แต่ในเวลานี้ใครจะช่วยเธอเล่า ในเมื่อต่างคนต่างก็ความแค้นต่อการกลั่นแกล้งที่รุนแรงของแอนเนาส์เซอร์ และเป้าหมายของพวกเขามีอย่างเดียวคือจับมัน
แอนเนาเซอร์ ยืนหัวเราะเยาะเย้ยอยู่บนป้ายร้านค้า
"นี่น่ะเหรอ ฝีมือของผู้เข้าแข่งขัน ในปีนี้ เห็นที จะไม่มีผู้ที่สมควรต่อการรับรางวัลเสียล่ะมั้ง"
"ฉันไม่ยอมแพ้หรอก" ฮันไซกัดฟันกรอด ทำท่าจะกระโดดตามแอนเนาสเซอร์ขึ้นไป แต่เฮไลน์ยื่นมือมาขวางไว้
"นิ่งก่อน ฟังเสียงอะไรให้ดี"
"โฮ๊ะๆๆๆ อะไรกันขอรับ จะยอมแพ้กันแล้วเหรอ แต่ผมก็ไม่คืนอาวุธให้หรอกนะขอรับ"แอนเนาส์เซอร์รวดเร็วว่องไว แต่ประสาทสัมผัสก็ไม่ได้ดีเหนือคนเหมือนสมิงหนุ่มและนินจาชุดดำ ทั้งสองเงี่ยหู เสียงอากาศที่เคลื่อนที่อย่างผิดปกติ พวกเขาได้ยินแล้ว
แต่ดูเหมือนการมาเงียบๆจะไม่ใช่จุดประสงค์ของสิ่งนั้น
"ข้ามาแล้ววววว ว้ากกกกกกกก ฮ่า ฮ่า ฮ่า"เสียงหัวเราะแหบต่ำดังลั่นขึ้นจนทุกคนแต่งให้ความสนใจกับมัน แม้แต่เจ้าหญิงยังหยุดการเช็ดน้ำคลำจากใบหน้า
แต่ว่าเสียงนั้นดังมาจากที่ใด?
โผล๊ะ!
หลังคาตลาดระเบิดแตกออกเป็นรูกว้าง เศษหลังคาร่วงแล้ว วัตถุอย่างหนึ่งพุ่งลงมาใส่แอนเนาเซอร์ จนเขาต้องรีบวาร์ปหนีไปอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!
พื้นตลาดแตกกระจาย น้ำคลำกระจายขึ้นมาใส่โดนเจ้าหญิงจนเปียกทั้งตัวจนเธอกรี๊ดลั่น แต่ผู้คนก็ไม่ได้ความสนใจต่อเสียงนั้น แอนเนาสเซอร์ ฮันไซ เฮไลน์ และคุโมจิ ต่างจับตามองไปยังตรงกลางรอยร้าวของพื้นตลาด 3 คนงุนงง คงมีแต่เฮไลน์เท้านั้นที่ยิ้มกระหยิ่ม
ตรงกลางรอยร้าวนั้นคือกริชสมิงและอาวุธของผู้แข่งขันทั้ง 4 กริชสมิงปกอยู่ตรงกลาง และมีอาวุธของผู้เข้าแข่งขันพันอยู่โดยรอบ
"จะเว้ยเฮ้ย! มาได้ยังไงเนี่ยขอรับ" แอนเนาส์เซอร์ ดูตกใจมากที่เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
"ฮ่า ๆๆ ไอ้่จำอวดโง่! แกมันผิดตั้งแต่คิดโขมยข้าแล้ว"กริชสมิงคำรามลั่น มันหมุนสะบัดตัวอย่างรวดเร็ว อาวุธทั้งหายที่พันอยู่รอบๆตัวมันกระเด็นกลับไปหาเจ้าของ พร้อมกับตัวมันเองด้วย มันกลับสู่มือของเฮไลน์
"น...นี่มันหมายความว่ายังไงกันขอรับ"
"บอกก็ได้ ไอ้จำอวด!"กริชสมิงคำราม "ก็เพราะข้าบินได้เองไงล่ะวะ ทีหลังหัดอ่านเรื่องราวของชาวบ้านก่อนนะเฟ้ย จะได้ไม่โง่"
"อะไรกันเนี่ย"แอนเนาสเซอร์ร้องเสียงหลง
"ว่าแต่...ได้เวลาจัดการแล้วสินะขอรับ"ฮันไซพูดเสียงเย็นพร้อมกับกระชับโซ่เคียวในมือ
"นายจะต้องชดใช้"คุโมจิประกาศพร้อมกับชี้ดาบในมือมายังแอนเนาสเซอร์
"มาให้หญิงจับเสียดีๆ นะคะ หล่อส้มขา"เจ้าหญิงเอง ก็กระชับแส้ในมือเตรียมพร้อม
"เอาสิขอรับ ถ้าคิดว่าจับผมไำด้ก็เอาเลย"แอนเนาสเซอร์ไม่หวั่นวิตกต่อการข่มขู่ เขาท้าทายพร้อมแยกร่างออกมาอีกนับจำนวนไม่ทั่ว
"เข้าใจผิดอะไรไปรึเปล่า ใครจะสู้กับนายกัน พ่อคุณตัวตลก"เฮไลน์กล่าวขึ้น เขาไม่มีท่าทีที่จะต่อสู้แม้แต่น้อย ซ้ำยังเก็บกริชสมิงเข้าฝักแล้วอีกด้วย
"ก็พวกเราไงยะ ชักอาวุธของนายขึ้นมาแล้วไปช่วยฉันจับหล่อส้มเดี๋ยวนี้นะ"เจ้าหญิงแว้่ด
"คงมีแต่เธอที่คิดแบบนั้น พวกเราต่างก็จุดประสงค์คือ เอาอาวุธคืนมา และเราก็ได้คืนมาแล้วด้วย จริงมั้ย ฮันไซ คุโมจิ"เฮไลน์แอบขยิบตาให้ทั้งสอง ฮันไซ เข้่าใจในนัยแฝงทันที
"นั่นสิ งั้นพวกเราก็เลิกกันแค่นี้เถอะขอรับ" นินจาหนุ่มลดท่าต่อสู้ลง ไม่ตรียมสู้ต่อแล้ว
ส่วนคุโมจิแม้ไม่เข้าใจแต่ในนิสัยที่รักสงบ เมื่อมีสันติวิะีเขาก็ยินดีทำตาม
"ดีเลยครับ งั้นพวกกลับกันเถอะ"
"อะไรกันยะ! แต่ฉันอยากจับหล่อส้มนะพวกนายยยย"องค์หญิงยังคงไม่เข้าใจความนัย เธอกรีดร้องจะเอาแต่ใจ แต่เมื่อสบกับสายตากดดันจากพรรคพวกทั้งสาม เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเงียบ และทำตามพวกเขา หันหลังผละออกจาแอนเนาสเซอร์...
ร่างแยกของแอนเนาเซอร์ทั้งหมดหายวับไป ตัวตลกหนุ่มหมดความร่าเริงไปในทันที เขายืนก้มหน้านิ่งแววตาและสีหน้าเศร้าหมอง น้อยใจความด้อยค่าของตัวเอง
"ผมคงไม่มีความหมายอะไรจริงๆ"ตัวตลกพึมพำกับตัวเองพร้อมหันเดินคอตกไปยังทางออกของตลาด
การเคลื่อนไหวของตัวตลกหยุดชะงัก เขารู้สึกเหมือนข้อเท้าถูกรัด ก้าวต่อไปไม่ได้ ที่ข้อเท้าของเขาถูกยึดไว้ด้วยแส้สีเขียวเข้ม และโซ่เส้นหนึ่ง มันคือดาบแส้ของคุโมจิและ โซ่เคียวของฮันไซ
เขาหันหลังขวับ อารมณ์ทั้งตกใจและแปลกใจ
ภาพตรงหน้าเขานั้น ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 กำลังยิ้มให้กับเขา
"จับได้แล้ว"คุโมจิชูกำปั้นร้องตะโกนอย่างดีใจ
"แล้วมาเล่นกันใหม่นะขอรับ"ฮันไซยิ้มพร้อมกับดึงโซ่กลับ เฮไลน์ยิ้มให้พร้อมกับยกนิ้วแม่โป้ง ใช้กริยาแทนคำพูดทั้งหมด
"พ...พวกนาย"แอนเนาสเซอร์ตะกุกตะกัก เขาสับสนเหลือเกิน จะดีใจ หรือเสียใจดีล่ะ ...แต่เขาไม่ต้องคิดอีกแล้วว่าจะดีใจหรือเสียใจ เพราะสิ่งที่เขาต้องคิด คือจะเอาชีวิตรอดยังไง
เมื่อองค์หญิงกระโจนเข้าไปใส่เขา
"หล่อส้มขาาาาาาาาาาาาาาา"
__________________--
จบ เฮ~