| [FAIL]หนีออกจากนคร | |
|
+6zilvilia Princess kurei Rotom Ebui King 10 posters |
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
King กษัตริย์แห่งนคร
จำนวนข้อความ : 174 Join date : 04/01/2010 : 24
| เรื่อง: [FAIL]หนีออกจากนคร Wed Feb 17, 2010 4:48 pm | |
| ชื่อเควส:หนีออกจากนครเจ้าของเควส : Prince สถานที่: ห้องพักผู้เข้าแข่งขัน จำนวนเทิร์นอย่างต่ำ : 8 เทิร์น จำนวนผู้เล่นที่กำหนด : 2 คน รางวัลเควส(ผู้เล่น) : แหวนคู่กิ่งเพชรรางวัลเควส(ผู้ให้คำแนะนำการแต่ง) : ยาน้ำแปลงร่างสมุนไพรโอ้โหใคร no.9 รางวัลเควส(ผู้เข้าชม+คอมเม้น) : STG - 44 Sturmgewehr พิการ Type รายละเอียด : เจ้าชายตรัสขึ้นมา : สิ่งที่เรียกว่า "อิสระ" มันคืออะไรกันนะ.... ตัวข้านั้นอยู่ในฐานะองค์ชายว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไป... ตัวข้านั้นไม่มีอิสระเสรีเหมือนนกที่ถูกขังในกรง ข้าเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างที่ตัวข้านั้นอยากเป็น...เจ้าชายตัดสินใจจะหนีออกจากนครสุดขอบฟ้าโดยมีผู้ที่ให้ความช่วยเหลืออย่างไม่เต็มใจนักสองท่าน โดยจะต้องหนีไปในทางลับภายในที่พักผู้เข้าแข่งขันโดยที่ต้องหลบเลี่ยงจะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆรวมทั้งอาเจ๊มาลัย แต่ไม่วาย ถูกอาเจ๊พบต้องเข้าต่อสู้กันอย่างหนักโดยที่ไม่สามารถทำอะไรเจ๊ได้เลยแม้แต่น้อย ต่อสู้กับอาเจ๊มาลัยอย่างดุเดือด แต่ทว่า!! อาเจ๊เรียกคนในหอที่เหลือมาช่วยอาเจ๊สู้ด้วยละสิ!! หลังจากนั้นก็พบว่าทางลับนั้นไม่มี เจ้าชายก็ตัดใจ แต่ก็รู้สึกสนุกกับการประลองฝีมือระหว่างคนในหอมากๆ และแอบมอบของรางวัลให้กับผู้ช่วยเหลือทั้งสองท่าน.. *คำที่กำหนด :: เทิร์นที่ 1 : จะต้องมีคำว่า "ปลาทู ไม้ถูพื้น พายุ ความวุ่นวาย ประตูน้ำ สิว" เทิร์นที่ 2 : จะต้องมีคำว่า "กระต๋ายหมายจันทร์ ฝันคุด หมุดปักกระดาน จุ๊บุ๊" เทิร์นที่ 3 : จะต้องมีคำว่า "อะฮ๊าง~ โปเตโต้ โมจิ แก้วน้ำ ดราม่า!!" เทิร์นที่ 4 : จะต้องมีคำว่า "เก็บสบู่ หมามุ่ย คุ้ยขยะ ปลากัด หมัดหมา" เทิรืนที่ 5 : จะต้องมีคำว่า "ข้าวต้ม นมหมู กะปู๋ก๊า จมน้ำ มะลิ" เทิร์นที่ 6 : จะต้องมีคำว่า "ปลาร้า อาก้า ลู่ลม ขมขื่น กลืนมันลงไป!" เทิร์นที่ 7 : จะต้องมีคำว่า "หมา หมี หมู เหม โหมวววว เหมี๊ยว" เทิร์นที่ 8 : จะต้องมีคำว่า "อิสระ อากาศ เครื่องบิน เราเป็นเพื่อนกันเถอะ เรารักนาย" *อาวุธที่กำหนดทุกๆเทิร์นจะต้องใช้ปลาทูเป็นอาวุธ..... ต้องใช้ NPC อย่างน้อย 3 ตัว (ไม่รวมอาซ้อ และปรินซ์)
*ตัวอักษรในแต่ละเทิร์นจะต้องมีจำนวน 6666 ตัวอักษรเวิร์ดเป๊ะๆ!เริ่มการหนีออกจากนครได้!!! [Turn 1/2/3/4/5] COMPLETE TURN 6 : 11 มีนา!!!!!!!!!!zilvilia kurei Princess Gain STG - 44 Sturmgewehr พิการ Type
แก้ไขล่าสุดโดย King เมื่อ Sun Mar 21, 2010 8:24 pm, ทั้งหมด 20 ครั้ง | |
|
| |
Ebui ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 26 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Thu Feb 18, 2010 12:54 am | |
| แม้จะต้องพบกับความวุ่นวายของเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน แต่กระนั้นเหล่าผู้ต้องคำสาปที่เข้าร่วมการแข่งขันของนครสุดขอบฟ้าทั้งหลาย ต่างก็แวะเวียนกันมาดูที่ป้ายประกาศ ณ ใจกลางเมืองแห่งนี้ไม่ขาด เพื่อว่าระหว่างรอคอยการแข่งขัน อาจจะมีคำว่าจ้างที่น่าสนใจของใครบางคนให้พวกเขาทำฆ่าเวลาไปพลางๆได้บ้าง
เด็กหนุ่มผมสีทองกวาดสายตามองใบประกาศที่ปักแบบกระจัดกระจายทั่วไม้กระดานอย่างเหนื่อยหน่าย ข้อเสนอต่างๆที่ผู้คนเอามาติดไว้นั้น ดูจะไม่มีอันใดที่ตรงกับความสนใจของเขาเลย โรธอมถอนหายใจเบาๆ แต่สายตาก็พลันไปสะดุดเข้ากับกระดาษแผ่นเล็กๆที่ซุกอยู่ตรงมุมกระดาน
กระดาษเนื้อดีแผ่นจิ๋วถูกติดไว้ที่สุดขอบของกระดานเหมือนไม่ต้องการให้ใครมาเห็น ในนั้นมีข้อความที่เขียนด้วยลายมือสวยงามดุจผู้ที่ได้รับการศึกษามาอย่างดี โรธอมหรี่ตาอ่านตัวหนังสือที่ถูกบีบขนาดให้เล็กตามกระดาษนั้น “[หนีออกจากนคร] เจ้าของเควสคือปริ๊นซ์...รางวัลของเควส....”
“แหวนคู่กิ่งเพชร!?”
########
“ทุกคน ตื่นนนนนนนนนนนน!!!” เสียงว้ากดังสนั่นสั่นสะเทือนให้แผ่นดินไหวได้เจ็ดริกเตอร์ของซ้อมาลัย ปลุกเหล่าผู้เข้าพักในหอให้ต้องตื่นไปตามๆกัน แวมไพร์หนุ่มนามเรฟลุกขึ้นจากเตียงในสภาพงัวเงีย แล้วเดินไปเปิดประตูเพื่อดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ฟ้าว~! ร่างของใครบางคนวิ่งผ่านหน้าเขาไปด้วยความเร็วแสง แต่จากผมสีเขียวชวนแสบตาที่เห็นแว้บๆนั่น ทำให้พอจะเดาได้ว่าเป็นซ้อมาลัย หลังจากซ้อวิ่งผ่านไปไม่นาน พวกผู้เข้าแข่งขันก็ทยอยวิ่งตามเธอไปแม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับคุณเดซี่” เรฟร้องถามเด็กสาวผมสีครีมที่วิ่งผ่านมา คนรู้จักหนึ่งเดียวภายในหอพักของเขาหยุดพักหายใจ แล้วหันกลับมาตอบคำถามสั้นๆ
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่วิ่งตามซ้อไปก่อนน่าจะดีกว่านะ” เธอพูดแค่นั้น และวิ่งจากไป
เรฟตัดสินใจวิ่งไปคนละทางกับอาซ้อ เผื่อจะได้รู้อะไรๆมากขึ้น ...แต่แล้วก็ชนเข้าอย่างจังกับใครบางคนที่วิ่งมา
พลั่ก! เด็กหนุ่มร่างสูงล้มลงกับพื้น ผมรากไทรสีเหลืองปลายน้ำตาลพันกันยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งผ่านศึกอะไรมาสักอย่าง เรฟประคองเขาลุกขึ้นและกล่าวขอโทษ
“ขอโทษนะครับ...อ๊ะ คุณ...”
เด็กหนุ่มดูจะประหลาดใจเล็กน้อยที่ชายตรงหน้ารู้จักเขา
“คุณคือ บาจิล จาก Reb*rn สินะครับ!?” แต่ประโยคแสนโอตาคุที่ตามมานั่นก็ชวนให้รู้สึกสิ้นหวังเสียจริง...
“นามของเราคือปริ๊นซ์” เขากล่าวเรียบๆ เมื่อได้ยินดังนั้นแวมไพร์หนุ่มจึงรีบก้มหัวขอโทษอีกครั้งในความเสียมารยาทของตน
“ทางนั้น! ทางนั้น!! ปริ๊นซ์อยู่ทางนั้นนนน!!!” เสียงที่คุ้นหูของซ้อมาลัยดังแว่วมาไกลๆขัดจังหวะการสนทนา ปริ๊นซ์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบออกวิ่งต่ออย่างลุกลี้ลุกลนโดยมีแวมไพร์ผมสีม่วงวิ่งตามมาติดๆ
“ท่าน...?”
“กำลังหนีซ้อมาลัยอยู่สินะครับ ปริ๊นซ์”
“นั่นก็ใช่...”
“งั้น ถ้าท่านไม่รังเกียจ...ให้ผมช่วยนะครับ”
########
...ตึงๆๆๆๆ
“หนีไปได้อีกแล้ววววว!!!”
ซ้อมาลัยผู้นำขบวนวิ่งตึงตังๆประดุจก็อตซิล่าถล่มตึก ทั้งยังตะโกนร้องนู่นนี่จิปาถะไปตลอดทางจนแสบแก้วหู เธอกำไม้ถูพื้นอันยาวไว้แน่นขณะที่วิ่งสับลมอย่างเอาเป็นเอาตาย ชวนให้คนข้างหลังต้องขวัญผวาว่าไม้ถูพื้นจะกระแทกโดนตัวเองเมื่อไหร่
โรธอมได้แต่วิ่งตามเธอไปด้วยความเหนื่อยใจ ถ้าเพียงแค่เขาไปสมทบกับปริ๊นซ์ได้ทุกอย่างก็น่าจะง่ายกว่านี้แท้ๆ...แต่มาคิดดูอีกที ถ้าเขาเจอปริ๊นซ์ในตอนนี้ นั่นก็หมายความว่าซ้อมาลัยจะเจอปริ๊นซ์ด้วย
“ทุกคน! แยกย้ายกันตามหาปริ๊นซ์ให้เจอ!!!” ซ้อมาลัยประกาศเสียงกร้าว โรธอมคว้าโอกาสทองนั้นไว้ด้วยการวิ่งแยกออกไปคนแรก
“เฮ้อ... แยกออกมาได้สักที ขืนอยู่กับซ้อต่อมีหวังได้หูพังก่อนแน่” เขาวิ่งพลางหันไปบ่นกับภูติสีแดงข้างกาย เจ้าภูตสายฟ้าหันมาพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้าไม่หูพังก็คงโดนไม้ถูพื้นจิ้มไส้แตก”
เด็กหนุ่มวิ่งมาหยุดอยู่หน้าทางลงของอาคาร มีทางเลือกสองทาง คือ บันไดและลิฟต์
“ลงลิฟต์ละกัน!” โรธอมไม่รอช้า เขาเดินเข้าไปในลิฟต์ แล้วกดเลือกชั้น 1 ลิฟต์เหล็กหนาทึบค่อยๆเลื่อนลงจากชั้นที่เขาเคยอยู่เมื่อครู่ช้าๆ ทีละชั้น ทีละชั้น ...จนไปหยุดกลางทางเมื่อมีใครบางคนกดลิฟต์
“ลิฟต์มาแล้-- หา!?” ผู้กดลิฟต์ร่างสูงทั้งสองมีท่าทีตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นมีคนยืนในลิฟต์อยู่ก่อนแล้ว ผีดูดเลือดและเจ้าชายกลับหลังหันเตรียมวิ่งหนีไป ทว่าถูกมือของใครบางคนรั้งเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ!” โรธอมรั้งแขนปริ๊นซ์ไว้ แล้วพูดต่อ “ฉันมา...เพราะเห็นใบประกาศนี้” เด็กหนุ่มควักกระดาษแผ่นจิ๋วออกจากกระเป๋ามาชูให้เขาดู
“ฉันต้องการทำเควสของคุณ”
########
คณะจรลีหนีภัยซ้อมาลัยพากันวิ่งมาเรื่อยๆจนถึงห้องอาหารชั้นล่าง ซุ้มอาหารมากมายถูกตั้งเรียงรายภายในห้องโถงขนาดมหึมา ชุดโต๊ะกินข้าวทำจากไม้ขัดเงาอย่างดีส่องประกายวิบวับเมื่อต้องแสงไฟ แต่ขณะที่พวกเขากำลังตื่นตาตื่นใจนั้นเอง...
ตึงๆๆๆๆ
เสียงที่คุ้นหูดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง...
“เอ่อ... ทำไมซ้อมาลัยถึงรู้ที่อยู่ของพวกเราได้ล่ะ” แวมไพร์หนุ่มหน้าซีด หันไปถามผู้ร่วมทีมทั้งสอง โรธอมส่ายหน้าอย่างจนปัญญาจะตอบ
“ข้อตกลงของหอพักข้อที่สิบสอง...” ปริ๊นซ์เอ่ยเสียงเรียบ ผู้เข้าพักสองคนรีบนับนิ้วพัลวันเพื่อนึกว่ามันคือบทบัญญัติข้อไหน “ข้อที่สิบสอง... ข้อที่สิบสอง...”
“ข้อที่สิบสอง!! ซ้อมาลัย เมพ-ขิง-ขิง !!!!” เสียงประกาศก้องดังขึ้นพร้อมกับประตูอีกฟากของห้องอาหารที่ถูกพังโครม ปรากฏให้เห็นร่างสูงใหญ่ของผู้ดูแลหอพัก ซ้อมาลัยพร้อมไม้ถูพื้นอันบักควายวิ่งตรงไปยังสามพระหน่อ ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองรีบควานหาอาวุธขึ้นมาใช้ต่อกรกับเธอ แต่ทว่า...
“กุญแจ! ไม่มี!!”
“ลืมดาบไว้ในห้อง!!”
การประสานเสียงอันสิ้นหวังของสองผู้ใกล้ตาย เรฟและโรธอมหันหน้ามองกัน ก่อนจะตัดสินใจคว้าอะไรบางอย่างในบริเวณนั้นมาใช้แทน
ฟิ้ว~ อะไรบางอย่างถูกขว้างไป และ...
แผละ! สิ่ง(เคย)มีชีวิตที่เรียกว่าปลาทู ลอยไปกระทบกับแป้งรองพื้นชั้นที่หกสิบหกบนหน้าซ้อมาลัยอย่างจัง
“คุณขว้างอะไรไปน่ะครั--...อุ” เรฟที่กำลังจะหันไปต่อว่ามือขว้างปลาทูได้แต่พูดไม่ออกเหมือนมีน้ำมาท่วมปาก เมื่อก้มลงมองพบว่าสิ่งที่ตนคว้ามาได้ก็คือสิ่ง(เคย)มีชีวิตชนิดเดียวกัน
“มีอะไรก็ใช้ๆไปเหอะน่า!” โรธอมไม่พูดเปล่าแต่คว้าปลาทูอีกตัวขึ้นปา
แวมไพร์หนุ่มลังเล เล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจทำตาม “งั้นก็ขอเสียมารยาทหน่อยละกันนะครับ!”
ปลาทูจำนวนมากบินตรงไปทางซ้อมาลัย แต่คราวนี้ซ้อกลับหลบได้พลิ้วๆยิ่งกว่าพระเอกหนังเรื่องเดอะแมทริกซ์ และพุ่งเข้ามาใกล้เหล่าผู้กล้าขึ้นทุกที
“ที่นี่มันที่ไหนกั-- กรี๊ดดดดด!” ปริ๊นเซสที่เพิ่งเดินเข้าห้องมาได้รับปลาทูไปพอกหน้าเต็มๆ แม่สาวงามโวยวายอย่างหัวเสีย “นี่! ถ้าหน้าชั้นมีสิวขึ้นมาจะทำยังไงยะ...ว้ายยยย~! นี่มันชุดนอนที่ชั้นเพิ่งซื้อมาจากประตูน้ำเลยนะ!!”
...ดูเหมือนจะไม่มีเวลาให้บ่นแล้วสำหรับเธอที่ต้องคอยระวังลูกหลงจากสมรภูมิปลาทู
พายุปลาทูแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างโดยมีคนปาเป็นสองพระหน่อผู้กล้าที่อาจหาญให้การช่วยเหลือเป้าหมายของซ้อ ผู้เข้าพักในหอคนอื่นๆที่ตามมาสมทบต่างก็พบกับความวุ่นวายในการหลบปลาทูนับร้อยที่ลอยละล่องทั่วห้องอาหาร ท่ามกลางความชุลมุนนั้นเอง เสียงกระดิ่งใสๆก็แทรกมาดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง
กริ๊ง กริ๊ง~
“โอ้~ ซ้อมาลัยวิ่งฝ่าดงปลาทูบินเข้ามาจนใกล้ถึงเป้าหมายแล้วครับ” ร่างบางในชุดปิเอโร่สีส้มรายงานสถานการณ์ด้วยสีหน้าสนุกสนาน แต่กระนั้นก็ยังสามารถหลบปลาทูบินได้ทุกตัวแบบไม่ทุกข์ไม่ร้อน
แวมไพร์หนุ่มหันไปบ่นอุบอิบขณะที่สองมือยังขว้างปลาทู และสองขายังวิ่งหนีซ้อ “พากษ์ผิดเวลาไปหน่อยรึเปล่าครับคุณโฆษก”
“แหมๆๆ... ก็กระผมคือแอนเนาซ์เซอร์นี่ขอรับ” เพราะคำตอบที่ยียวนชวนเข้าคอร์สนวดหน้าด้วยฝ่าเท้า ทำให้มีปลาทูหนึ่งตัวที่ตั้งใจบินเข้าไปหาโฆษกสีส้มโดยเฉพาะ
“โอ๊ะโอ... ขอบคุณขอรับ อันที่จริงมันเป็นของชอบของกระผมเลยล่ะ~ ฮี่~” แอนเนาซ์เซอร์รับปลาทูตัวนั้นแล้วฉีกเนื้อเข้าปากอย่างสบายใจเฉิบ “เนื้อหวานดีจริงๆเลยนะขอรับ”
แวมไพร์หนุ่มพยายามไม่สนใจโฆษกตัวกวน เบนความสนใจทั้งหมดกลับมาที่การร่วมกันช่วยเหลือเจ้าชาย “เอ่อ...แล้วจะเอายังไงต่อครับปริ๊นซ์”
“ว่ากันว่าภายในหอพักแห่งนี้มีทางลับซ่อนอยู่...” ปริ๊นซ์เอ่ยขณะที่พากันวิ่งหนีจนออกมานอกห้องอาหาร โรธอมที่วิ่งขนาบมาด้วยเอ่ยทวนอย่างสงสัย “ทางลับ?”
“ก็แค่คำร่ำลือที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงรึเปล่าน่ะนะ...”
“เอาเป็นว่าสลัดซ้อมาลัยให้หลุดก่อนเถอะ” โรธอมหันไปพูดตัดบทกับเรฟ แวมไพร์หนุ่มชี้หน้าตัวเองงงๆ “ผมเหรอครับ?”
“เอ่อ...งั้นก็...Summon” หมาป่าตัวหนึ่งวิ่งเข้าใส่ซ้อมาลัยอย่างบ้าคลั่ง
“...จะรอดมั้ยนะ?”
แก้ไขล่าสุดโดย Ebui เมื่อ Sat Feb 20, 2010 9:25 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
Rotom ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 10 Join date : 15/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Thu Feb 18, 2010 5:26 pm | |
| หมาป่าสีดําพุ่งเข้าหาอาซ้ออย่างบ้าคลั่ง หากแต่ได้ผลไม่ ซ้อใช้ฝ่ามืออันแกร่งกล้าจับหมาป่าแล้วหักคออย่างง่ายดาย จากนั้นทั้งสองพยายามขว้างปลาทูใส่อีก แต่ไม่เกิดผล อาซ้อที่มีรูปร่างยักษ์หลบปลาทูได้ยังไงกันนะ
"เอ่อ ท่านซ้อที่รักครับ ท่านช่างสวยงดงามดั่งนางฟ้าจิงๆเลยครับ"แวมไพร์หนุ่มเปลี่ยนท่าที่ ทําเป็นหยอดคําหวานใส่ซ้อ อาซ้อเริ่มนิ่งลงเล็กน้อย สมองของชายหนุ่มครุ่นคิดด้วยความเฉลียวฉลาด ในขณะที่หนุ่มผมเหลืองทอง ส่งสัญญาณให้แวมไพร์หนุ่ม
"ซ้อครับ แม้อายุผมจะแก่กว่าซ้อมาก แต่ผมก็รักซ้อนะครับ"ชายหนุ่มผมม่วงนามเรฟ ยังคงทําเป็นจีบอาซ้อต่อไปเรื่อยๆ จนซ้อเริ่มหน้าแดงขึ้นๆ ส่วนโรธอมยังคงหลับตาอยู่ พลางขมุบขมิบปากเล็กน้อย แต่ซ้อไม่ได้สนใจ ในขณะที่ซ้อหน้าแดงอยู่นั้น อยู่ดีๆซ้อก็เปลี่ยนเป็นตาสีเขียว ขบฟันด้วยใบหน้าอันเกรี้ยวกราด
“น้ำหน้าอย่างแกมันก็แค่กระต่ายหมายจันทร์”ฉับพลันเจ๊แกเปลี่ยนเป็นน่าโหดในทันใด ไล่เอาไม้ถูพื้นหวดอากาศ จนทั้ง2วิ่งหลบ แต่โรธอมดีดนิ้วดังเป๊าะ ทันใดนั้นเอง ภูติจิ๋วสีแดงที่อ้อมมาด้านหลังอาซ้อก็ปล่อยไฟฟ้าอย่างรุนแรง แต่ซ้อมีผิวหนังที่เหมือนกับยาง จึงไม่มีผลอะไร ภูติจิ๋วตกใจจนลอยมาหาโรธอม
“เฮอะ ซ้อคงทำได้แค่ฝันว่าตนเองเป็นดวงจันทร์ ฉันเป็นกระต่าย”แวมไพร์หนุ่มเรฟ วิ่งไปพร้อมกับหนุ่มเสื้อไหมพรม โรธอมหัวเราะ
“ถ้างั้นคงเป็นฝันคุดล่ะมั้ง”ทั้งสองหัวเราะแบบไม่กลัวภยันอันตรายด้านหลัง โรธอมได้เรียกภูติจิ๋วกลับโลกภูติ ฉับพลันโรธอมก็โยนปลาทูจำนวนเป็น10ใส่หน้าซ้อ ซ้อไม่เคยหวั่นพลางเอามือปัดได้อย่างง่าย
“ฮึ่ม...นี่ท่านเจ้าชาย จุดอ่อนของซ้อคือแถวๆตา มีหมุดพวกหมุดปักกระดานอะไรแบบนี้มั้ยครับ”โรธอมถามเจ้าชาย ในขณะที่ตอนนี้ปลาทูได้หมดไปแล้ว พวกเขาเดินหนีไปเรื่อยๆ จนบอกได้ว่า เขาเดินจนเห็นห้องครัวที่7แล้ว
“มี...นี่ไงโชคดีฉันพกมา”เจ้าชายพูดพลางหยิบหมุดเล็กๆมาจำนวนหนึ่ง โรธอมได้ที หยิบหมุดจำนวนมากติดมือพร้อมกับเรฟ แล้วโยนใส่แบบพายุอีกครั้งซ้อ โดนไปหลายดอกแต่ไม่เกิดผล หนังอาซ้อเหนียวมาก จนหมุดไม่สามารถทำอะไรได้
“เฮ้ย มาสู้กันแบบท้าดวลดีกว่า”โรธอมกล่าวขึ้นเสียงดัง ทั้งเจ้าชายและเรฟสะดุ้ง
“ยังไงล่ะ”ซ้อถามด้วยน้ำเสียงสงสัย แต่ยังคงมีเขี้ยวงอกอยู่ดี เสียงก็ยังโหดอยู่เสมอๆ
“เอาปลาทูมาสู้กัน ยังไงก็ได้ครับ”เรฟพูดบ้างด้วยน้ำเสียงที่ไม่เกรงต่อพลังของซ้อ พลางเรียกค้างคาวออกมา2ตัว
“โอ้ สถานการณ์ถึงขั้นสุดยอดแล้วขอรับ งานนี้มันส์แน่ขอรับ”ตัวตลกชุดส้มที่เกาะอยู่บนเพดานกล่าวพลางฉีกปลาทูรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย แต่ไม่มีใครสนใจ
“โอเคได้เลย ฉันขอใช้ผู้เข้าพัก1คน โอเค รีบมานะ จุ๊บุๆ”ซ้อพูดด้วยเสียงหวานทางโทรศัพท์ ฉับพลันประตูห้องครัวก็พังลง ปรากฏร่างของแมมมอธยักษ์สีน้ำตาล งายาวและทรงพลัง ใบหน้าดุดัน ทั้ง3คิดในสมองว่า ซ้อแกคบแมมมอธเป็นแฟนรึไง
“เจ้าชายครับ เดี๋ยวผมจะใช้ควันพรางตัว เจ้าชายรีบไปหาทางลับหลบหนีไปนะครับ พวกผมจะรบต่อที่นี่”โรธอมกระซิบบอกเจ้าชาย ฉับพลัน โรธอมเร่งไฟฟ้าในกาย เกิดคัวนขึ้นชั่วขณะ เจ้าชายได้ขี่หมาป่าของเรฟไปด้วยความเร็ว แต่ซ้อไม่ทันสังเกตุ
“เริ่มเลย Summon”แวมไพร์หนุ่มผมม่วง เปิดฉากด้วยการเรียกค้างคาวขนาดใหญ่2ตัวออกมา แล้วสั่งให้มันใช้เท้าจับที่หูตะกร้าสานที่ใส่ปลาทูจำนวนมาก ค้างคาวใช้เท้ามันจับแล้วบินขึ้นฟ้า จากนั้นจึงเทลงมาใส่อาซ้อ
“แฮ่ๆๆๆๆ”แมมอธยักษ์ปล่อยสะเก็ดน้ำแข็งรอบตัว จนปลาทูทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็ง มันใช้เท้าเตะปลาทูอย่างแรง ปลาทูที่เหมิอนกระสุนปืนจำนวน1เข่ง ถูกเตะจากเท้าของมัน ฝ่ายแวมไพร์หนุ่มหลบอย่างแข็งแกร่ง โรธอมใช้ปลาทูขว้างปาอย่างรุนแรง เช่นเดิม ซ้อหลบได้หมด แล้วเอาปลาทูขนาด2เมตรที่ท่าทางจะหนักกว่าปลาบึกออกมา แล้วควงรอบตัวฟาดไปมาอย่างบ้าคลั่ง เรฟให้ค้างคาวทำแบบเดิม และแล้วแมมมอธยักษ์ก็ทำแบบเดิมอีก ใช้เกล็ดน้ำแข็งแช่แข็งปลา
“Scarlet Fog”เรฟสร้างหมอกสีเลือดออกมาหลบการโจมตี ของศัตรู แล้วปาปลาทู ออกไป แล้วก็ถอยหลังไปทีละนิดๆทั้งคู่ ถึงเจ้าแมมอธน้ำตาล จะหลบไม่ได้ แล้วใช้งาปัดไปได้เล็กน้อย แต่ซ้อ หลบได้หมด
“Seeking”ซ้อตะโกนด้วยพลังอันมหาศาล พร้อมปักปลาทู(?) ขนาดปลาบึกลงไปที่พื้น ด้วยกำลังของซ้อ พื้นแตกกระจายเป็นหลุมทันที ซ้อหลับตาเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาภายในเวลาไม่ถึง2วินาที ซ้อใช้ดาบปลาทูที่ยืดขึ้นจากเดิม ฟันเข้าไปในหมอก จนหมอกสลายไป และร่างของหนุ่มทั้ง2ก็กระเด็นออกมาเช่นกัน
“อั่ก ถึงซ้อจะใช้ Seeking เห็นพวกเรา แต่ก็ไม่น่าจะรู้ว่าเราจะทำอะไร จนหลบการโจมตีได้หมดแบบนี้นี่ครับ ซ้อต้องใช้ทักษะอะไรแน่ๆ”เรฟพูดกับโรธอมพร้อมลุกขึ้นมา โรธอมเองก็ใช้มือยันตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน เสียงหัวเราะของอาซ้อดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ด้านเจ้าชายของเรา
“ย้ากกก”เจ้าชายใช้ดาบฟันผ่าสายหมอกไปอย่างเหน็ดเหนื่อย เพราะเขาฟันผ่าหมอกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
“หึๆๆ ท่านเข้าชายๆ ท่านเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”เสียงที่เย็นยะเยือกของซ้อดังขึ้นผ่าสายหมอก พร้อมหน้าตาที่แสยะยิ้ม ของอาซ้อที่กล้ามเป็นมัดๆ
“มาได้ยังไงกันเนี่ย”ปรินซ์ ชายหนุ่มผมเหลืองร้องอย่างตกใจ เมื่อเห็นอาซ้อ สตรีผู้กล้าแกร่งอยู่ตรงหน้า
“กฏข้อ11 ซ้อทำได้ทุกอย่าง”ว่าแล้วซ้อก็รีบไล่จับปรินซ์ต่อทันที ปรินซ์ จึงรีบหนีไปทางเดิมต่ออย่างรวดเร็ว
ด้านนักรบทั้ง2ต่อ
“กร้ากๆๆๆ ไอ้หนู นี่คือท่า Avoid Thunder ของแกไงเจ้าหนุ่ม”อาซ้อหัวเราะและพูดอย่างบ้าคลั่ง ก่อนวิ่งเข้าโมตีทุกอย่างที่ขวางหน้า พลังแบบยักษ์อสูรที่แข็งแกร่ง ทั้งสองรบด้วยไม่ไหว จนต้องวิ่งหนีออกมาจากห้องครั้ง
“ไม่ได้ผลหรอก ผีเสื้อจงโบยบิน”ซ้อหยิบปลาทูชิ้นเล็ก และขว้างอย่างแรง โรธอมใช้ อวร์อด ทันเดอร์ หลบได้ทัน จึงใช้ปลาทูปัดออก ทันใดนั้นเอง เรฟที่หยิบหมุดที่ตกพื้นมาปักที่ปลาทู เป็นตะบองหนาม แล้วฟาดที่ซ้อ แต่ปลาทูที่แข็งแกร่งกลับปัดจนปลาทูหนามหักไป
“ย้ากกกก”โรธอมที่ใช้เวลาเรียกภูติออกมาระหว่างที่เรฟรับการโจมตีของคุไน(?)
“Thunder Twisterr”โรธอมใช้พลังของภูติปล่อยไฟฟ้าช็อตตัวเอง แล้วกางแขนสร้างหายุขนาดใหญ่มาได้ง่ายๆ พลังสายฟ้าทำลายตึกอันเปราะบางของหออย่างง่ายดาย แต่ซ้อกลับวิ่งเข้ามาแล้วประสานมือเป็นอะไรบางอย่าง
“เดือดทะลุจุดศูนย์ ฉบับต้นตำรับ”ทันใดนั้นเอง ไอเย็นเยือกแข็งที่ถูกปล่อยออกมาจากสายฟ้า จนแข็งไป โรธอมกระโดดหลบออกมาทัน แต่พายุที่แข็งไปนั้น ซ้อได้ดึงมาไล่ฟาดพวกเราทั้ง2อย่างบ้าคลั่งตามเคย
“เอาไงดีเนี่ย ซ้อเมพจริงๆ พลังพวกเราจะหมดแล้ว อั่ก”โรธอมร้องออกมาหลังโดนก้อนน้ำแข็งฟาดไปที่กลางหลัง ตกลงไปในกองปลาทูในตะกร้า
“พวกแก ตายยยย”ซ้อถามด้วยน้ำเสียงอันบ้าคลั่ง พร้อมเงื้อปลาทูขึ้นเหนือหัว ฟาดลงมาอย่างแข็งแกร่ง แต่!!! จู่ๆซ้อก็โดนชนด้วยตัวของซ้อเอง ??? จนซ้อทั้งสองกระเด็นไป ปรินซ์ได้เข้ามาหานักรบทั้ง2 พร้อมกับวิ่งโดยการฉวยจังหวะนั้น
“อา”ซ้อทั้งสองคนลุกขึ้นมา จากนั้นก็แผดเสียงอันน่าสะพรึงกลัวออกมา ทั้งสองวิ่งไล่เจ้าชายต่อไป จนทั้ง3ต้องเร่งความเร็วให้สูงขึ้นอีก
“เร็วครับปรินซ์ จะตามทันแล้ว”เรฟพูดด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย ทั้งโรธอมและเจ้าชายต่างก็เหนื่อยไม่แพ้กัน ทั้ง3วิ่งแล้ววิ่งอีก ลดเลเยงเคี้ยวคด แต่ซ้อก็ตามด้วยความเร็วระดับเร็วเมพ
“ฮึ่ม...อ้ะ”โรธอมที่วิ่งนำหน้าตกใจกับก้อนน้ำแข็งขวางทางขนาดยักษ์ ซ้อที่หยิบขวานไล่เข้ามาติดๆ
“Summon/Avoid Thunder”ท่าไม้ตายทั้งสองถูกใช้พร้อมกันดั่งท่าประสาน ค้างคาวสีดำบินขวางทางอาซ้อ อาซ้อถึงจะไม่แพ้ต่ออะไรทั้งสิ้ง แต่ก็มองไม่เห็น ด้วยสกิล อวอร์ด ทันเดอร์ จึงสามารถหลบการโจมตีของซ้อทั้งสองได้ กลายเป้นซ้อพุ่งทลายทางน้ำแข็งไป โรธอมกระโดดเอาตัวเข้าชนกับซ้อหวังจะให้ลื่นไปกับน้ำแข็ง แต่เปล่าประโยนช์ โรธอมกระเด็นออกมาจนล้มกองกับพื้น น้ำสีแดงพุ่งออกมาจากปาก
“โรธอม เป็นไรมั้ยครับ”เรฟวิ่งเข้ามาด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเจ้าชาย
“เราต้องหาทางลับให้ได้ เรฟทำไมนายไม่ใช้ Seeking หาล่ะ”โรธอมพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดแรง เขาวิ่งมานานมากแล้ว แถมยังสู้กับซ้อผู้แข็งแกร่งถึงสองคนอีก บัดนี้ซ้อรวมร่างเป็นคนเดียวเช่นเดิมแล้ว
“หอแห่งนี้มีพลังป้องกันครับ ผมไม่สามารถมองทะลุได้”เรฟพูดด้วยน้ำเสียงที่เสียใจ
“งานนี้เราต้องหากันเอง”เจ้าชายพูดบ้าง ในขณะนั้น ซ้อก็เตรียมตัวบุกอีกครั้ง ซ้อหยิบ ดาบ มีด หอก มาจากใหนก็ไม่รู้วิ่งเข้าใส่ทั้งสาม ทั้งสามรีบวิ่งหลบการโจมตีที่กล้าแกร่ง แต่ไม่สามารถหลบได้ พวกเขาโดนโจมตีด้วยพลังมหาศาลจนตกลงมาจากชั้นนั้น ทะลุลงไปด้านล่าง จนถึงชั้นใหนที่ไม่มีใครทราบ ทั้งสามคนพยายามลุกขึ้นมา เสียงฝีเท้าอันหนักของบางคน ไล่ตามมาติดๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Rotom เมื่อ Tue Feb 23, 2010 8:42 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
King กษัตริย์แห่งนคร
จำนวนข้อความ : 174 Join date : 04/01/2010 : 24
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sat Feb 20, 2010 9:33 pm | |
| สุดยอดมากกกกกกกกกก ฮาได้โล่ห์!!!!!!!!!!!1 | |
|
| |
kurei ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 24 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Mon Feb 22, 2010 1:59 pm | |
| อา พายุปลาทูเต็มไปหมดในหอพัก ทั้งๆที่เพิ่งกลับจากการทำภารกิจแหวนเพียงวันเดียวแท้ๆนึกว่าจะได้พักอย่างเต็มที กลับต้องมาวิ่งไปมาตามเสียงอาซ้อ [ขัดใจก็ไม่ได้ด้วยสิ-*-] ขอเอาใจช่วยให้รอดพ้นละกันครับ...ผมขอเก็บกวาดปลาทูที่ตกอยู่นี้ก่อน อาซ้อใช้ท่าของผม.....อ่า.....-*- ผมต้องฝึกเกือบๆปีแต่ซ้อเล่นใช้ได้ภายใน3วี ซ้อจะเทพไปไหน
แก้ไขล่าสุดโดย kurei เมื่อ Thu Feb 25, 2010 12:48 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
Princess ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 42 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Mon Feb 22, 2010 8:47 pm | |
| อยู่ไหน น้าาาา หญิงจะช่วยท่าน อ. เอง!!! | |
|
| |
zilvilia ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 35 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Tue Feb 23, 2010 9:51 pm | |
| ตายล่ะ... ปลาทูจากไหนเนี่ย เต็มไปหมดเลย... เก็บไปทอดกินดีกว่า~* ลั้นลา~* | |
|
| |
Linkin_park ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 40 Join date : 22/02/2010 : 29 ที่อยู่ : Earth
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Tue Feb 23, 2010 10:45 pm | |
| | |
|
| |
King กษัตริย์แห่งนคร
จำนวนข้อความ : 174 Join date : 04/01/2010 : 24
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Wed Feb 24, 2010 3:00 pm | |
| =__= ซ้อดับเครื่องชนได้ด้วย!! เว้ยเฮ้ย!! | |
|
| |
Wallohz ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 6 Join date : 14/02/2010 : 28 ที่อยู่ : หน้าคอมพิวเตอร์
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Wed Feb 24, 2010 6:16 pm | |
| เพราะซ้อทำได้ทุกอย่าง อ้ากก~~ Munmoo สินะ-*- | |
|
| |
Icetrainer ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 27 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sat Feb 27, 2010 2:50 pm | |
| โรตอมแถสดแถเปื่อยมากกกกกกกก ใส่เข้าได้ | |
|
| |
Ebui ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 26 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sat Feb 27, 2010 6:03 pm | |
| กราบขออภัยอย่างสูงที่เลทค่ะ สารภพตามตรงว่านับวันผิด จะถูกตัดสิทธิ์การได้รับไอเท็มหรืออะไรก็แล้วแต่จะพิจารณาละกันค่ะ
เอามาแปะเพราะคิดว่าควรแปะ ไม่อยากให้โจทย์ดีๆต้องล่ม มันน่าเสียดาย...
##################
“ทำไมใต้อาคารชั้นหนึ่งถึงยังมีห้องอยู่อีกล่ะ!?” โรธอมโพล่งออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อตัวเองถูกซัดตกทะลุพื้นอาคารลงมา แต่กลับพบห้องเก่าๆสไตล์ยุโรปกลางที่ถูกซ่อนไว้ใต้หอพักแห่งนี้
“ไม่มีทางลับ...แต่มีชั้นใต้ดินแทนงั้นสินะ” ปริ๊นซ์เอ่ยพลางเดินสำรวจบริเวณรอบๆ ในขณะที่เสียงฝีเท้าของซ้อมาลัยก็ดูจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เรฟเงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าของพญามารอย่างร้อนรน “ซ้อมาลัยใกล้เข้ามาแล้วนะครับ...หนีกันก่อนดีมั้ย”
ทั้งสามวิ่งไปอย่างไร้จุดหมายในสถานที่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แม้จะเจอกับดักมากมายที่ถูกซ่อนไว้ตามพื้นและผนัง แต่ก็ยิ่งคงวิ่งต่อไปด้วยคิดว่า กับดักแค่นี้เล็กน้อยนัก เมื่อเทียบกับพลังทำลายมหาศาลของซ้อมาลัย
“เจอบันไดแล้ว!” โรธอมชี้มือไปข้างหน้า ที่ตรงนั้นมีบันไดลิงเหล็กกล้าขนาดใหญ่ถูกยึดไว้กับผนัง ขนาดของมันใหญ่จนอดคิดไม่ได้ว่าผู้ที่สร้างมันคงจะเป็นคนตัวใหญ่แน่แท้
ทั้งสามทยอยปีนขึ้นบันไดไปโผล่ที่ห้องสีขาวแห่งหนึ่ง ดูจากสไตล์การก่อสร้างแล้วน่าจะเป็นส่วนหนึงของหอพักผู้เข้าแข่งขัน ถ้าไม่นับการตกแต่งต่างๆตามผนังห้องที่ล้วนเต็มไปด้วยโปสเตอร์รูปผู้ชายหน้าตาหล่อเหลานับร้อยแปะกระจายอยู่ทั่วทุกซอกมุมของห้อง ไหนจะกองเครื่องสำอางที่สุมกันสูงยิ่งกว่าจอมปลวก คณะจรลีหนีภัยซ้อมาลัยเริ่มจะตะหงิดๆเสียแล้วสิว่านี่คือห้องพักของใคร...
“อย่าบอกนะครับว่าที่นี่เป็น...” แวมไพร์หนุ่มตาค้างเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรูปถ่ายเจ้าของห้องที่ใส่กรอบตั้งไว้ข้างหัวเตียง แม้รูปๆนี้จะผ่านการรีทัชด้วยโฟโต้ช็อปมานับล้านกรรมวิธี แต่คนที่ปรากฏอยู่บนรูปนั้นใช่คนที่พวกเขารู้จักดีไม่ผิดแน่
“ห้องของซ้อมาลัย” โรธอมชักสีหน้าไม่สู้ดีเมื่อรู้ว่าตนได้เหยียบย่างเข้ามาในที่ที่ไม่สมควรที่สุด เขาหันมองเพื่อนร่วมทีมอีกสองคนสลับไปมาเพื่อขอความเห็นว่าจะทำอย่างไร
“จะหนีก็คงไม่ทันแล้วล่ะ...” เจ้าชายพูดเสียงเรียบๆพร้อมบุ้ยใบ้ไปทางประตูห้องซึ่งมีเสียงอะไรบางอย่างคล้ายคิงคองกำลังวิ่งตรงมา
โครม! ซ้อมาลัยใช้เท้าถีบพังประตูเข้ามา ในมือของเธอเพียบพร้อมไปด้วยศาสตราวุธนานาชนิดประดุจจะไปออกรบในสงครามโลกก็ไม่ปาน เสียงแว้ดลั่นที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้งบ่งบอกเวลาสิ้นชีวิตของทั้งสาม “เจอตัวแล้ว!!”
เรฟหันมองไปมาอย่างตื่นตระหนก ฉับพลันก็คว้ารีโมทมาเปิดโทรทัศน์ที่กำลังถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตรวมดาราอยู่ ปั๊บ โปเตโต้ ออกมาร้องเพลง Will you marry me พร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของแฟนๆที่ดังทะลุจอแก้ว ทว่าอาซ้อกลับส่งเสียงฮึดฮัดไปมาด้วยความหงุดหงิด แถมคว้าไม้ถูพื้นขึ้นมาเตรียมทุบโทรทัศน์ทิ้งอีกต่างหาก
“ฉันเกลียดเพลงนี้~~!!!!”
แวมไพร์หนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนช่องเป็นทีวีเคเบิล รายการเพลงเกาหลีกำลังเปิด MV เพลงฮิตของวงดงบังชิน*ปี๊บ*อยู่
คราวนี้ซ้อมาลัยหยุดมือ แล้วพุ่งไปเกาะหน้าจอโทรทัศน์ด้วยความสนอกสนใจ “กรี๊ดดดดดด นุ้งแจ~~ ทำหน้าอะฮ้าง~อย่างนี้สิแจ๋ว!!!”
เมื่อเพลงจบลง ก็สลับเป็นข่าวการมีปัญหากับค่ายเพลงของวงชื่อดังนี้ อาซ้อโวยลั่นด้วยความเดือด “เฮ้ย! ไอ้ค่ายเวรนี่มันจงใจดราม่า!!”
สามหนุ่มสาม(ซุก)มุมห้องยืนมองซ้อมาลัยที่อารมณ์แปรปรวนไปมาเมื่ออยู่หน้าจอโทรทัศน์ ก่อนจะพากันย่องไปที่ประตูอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นแก้วน้ำก็ถูกขว้างมาดักหน้าอย่างรู้ทัน
เพล้ง! เสียงแก้วกระทบพื้นแตกกระจายดังขึ้นพร้อมกับเสียงซ้อมาลัยที่หันกลับมาตวาดใส่ “อย่าคิดว่าจะหนีพ้นนะ!!”
ทั้งสามวิ่งกรูออกจากห้องหัวซุกหัวซุน โดยมีซ้อมาลัยวิ่งตามมาไม่ห่าง
“สลัดไม่หลุดแล้วครับ!! ฝีเท้าของซ้อนี่มันเร็วยิ่งกว่า เซนะ จาก อาย*ปี๊บ*ยี่สิบเอ็ด ซะอีก!!” เรฟวิ่งพลางร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง
“ในข้อตกลงของหอพักก็มีเขียนนี่ครับ ว่าซ้อทำได้ทุกอย่าง ฮี่ๆ” เสียงยียวนกวนบาทาอันคุ้นเคยของโฆษกตัวดีแทรกเข้ามาดึงความสนใจของสามนักวิ่งโอลิมปิคทีมชาติอีกครั้ง
โรธอมหันไปแว้ดใส่ผู้เก่าแต่มาใหม่ด้วยความรำคาญ “คุณอีกแล้วเหรอ!?”
“ไม่ใช่กระผมแล้วจะเป็นใครล่ะครับ ...อา จริงสิ สนใจกินโมจิแม่เล็กนครสวรรค์มั้ยครับ” ปิเอโร่สีส้มยื่นกล่องขนมที่ผลิตในประเทศทางตะวันออกให้โรธอม เด็กหนุ่มหันไปแยกเขี้ยวใส่โฆษกแทนการปฏิเสธ “อย่ามาชวนอู้ผิดเวลาเซ่!”
“อ๊ะแหมๆๆ... –เอ๋?” โฆษกมีสีหน้าประหลาดใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของแวมไพร์หนุ่ม เรฟคว้าข้อมือของปริ๊นซ์และโรธอมไว้ ก่อนจะจ้องมาทางแอนเนาซ์เซอร์ซึ่งกำลังวิ่งหย็องแหย็งไปมา
“จับมือผมไว้ดีๆนะครับ... Second Shadow!”
ร่างของทั้งสามหายวับไป และปรากฏขึ้นใหม่บนเงาของโฆษกสีส้ม แอนเนาซ์เซอร์หันกลับมามองผู้ที่อาศัยเงาตนอย่างตกอกตกใจ “พวกคุณ...!?”
“ขอยืมความเร็วของคุณหน่อยก็แล้วกันนะครับคุณโฆษก” คณะจรลีหนีซ้อมาลัยยกขโยงมาเกาะเงาของตัวตลกสีส้มหนึบเสียยิ่งกว่าตีนตุ๊กแก แวมไพร์หนุ่มและผองเพื่อนยืนนิ่งๆแต่ร่างกลับเคลื่อนที่ไปตามเงาของแอนเนาซ์เซอร์
แม้แอนเนาซ์เซอร์จะพยายามวิ่งให้เร็วแค่ไหนก็ไม่สามารถสลัดปลิงที่เกาะเงาของตนให้หลุดไปได้ เจ้าของเงาจึงหันไปบ่นอย่างหัวเสีย “นี่พวกคุณเอากาวตราช้างมาหยอดใส่เงากระผมหรือไงครับเนี่ย!!!”
เมื่อไม่มีวิธีที่จะจัดการกับผู้อาศัยเงาได้ โฆษกจึงตัดสินใจกลับหลังหันและวิ่งเข้าไปหาซ้อมาลัย พร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ทั้งสามคน “เป็นปรปักษ์กับซ้อไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ”
“ดีมาก!” ซ้อมาลัยวิ่งเข้าหาโฆษก เตรียมหวดไม้ถูพื้นในมือใส่ตัวก่อความวุ่นวายที่หลบอยู่หลังเงานั้นเต็มที่ แวมไพร์หนุ่มกัดฟันกรอดและตัดสินใจยุติการใช้ความสามารถ “Stop stalking!”
ทั้งสามออกจากเงาของโฆษกแล้ววิ่งหนีขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของหอพัก ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆที่เดินออกจากห้องอาหารมาเจอยังคงงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปริ๊นเซสในชุดนอนที่ได้รับการตกแต่งด้วยปลาทูอย่างไม่ตั้งใจพึมพำด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พ่อหนุ่มหล่อสามคนนั่นวิ่งหนีอะไรกันอยู่นะ!? หญิงล่ะอยากรู้จริงๆเลย”
“จะใช้วิธีอะไรก็ได้ ถ้าใครจับสามคนนั้นได้ ชั้นมีรางวัลให้!!” ซ้อที่กำลังวิ่งมาประกาศลั่นดังก้อง ผู้เข้าหอพักที่ได้ยินต่างรีบวิ่งตามขึ้นไปหมายจะจับเป้าหมายมามอบแด่ซ้อมาลัยให้ได้ การวิ่งไล่ล่าเป็นไปอย่างชุลมุน เวทมนตร์และพลังต่างๆถูกงัดขึ้นมาใช้กันอย่างอึกทึกครึกโครมจนน่ากลัวว่าหอพักจะถล่ม
“ผีเสื้อจงโบยบิน!”
“Sticky Gum!”
“Rocket Launcher!”
ท่าโจมตีสารพัดอย่างของชาวหอถูกใช้โดยเล็งเป้าหมายไปที่คนกลุ่มเดียวซึ่งกำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้จะสามารถหลบการโจมตีเหล่านั้นได้ทั้งหมด แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยมิใช่น้อย
พวกปริ๊นซ์วิ่งหนีไปเรื่อยๆจนมาเจอะเข้ากับปริ๊นเซสที่ยืนดักทางไว้ สาวงามในชุดนอนกลิ่นปลาทูร้องวี้ดว้ายเมื่อได้ยลความหล่อของเป้าหมายแบบชัดๆ
“กรี๊ด~ อะไรกันเนี่ยยยยย ทำไมเป้าหมายที่ซ้อมาลัยให้ตามจับถึงได้หล่ออย่างนี้ล่ะ!?” ปริ๊นเซสในชุดนอนโป๊ๆพูดพลางวิ่งเข้าไปจ้องหน้าชายหนุ่มทั้งสามทีละคนๆ
“เอ่อ...” แวมไพร์หนุ่มอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก ขณะที่เด็กหนุ่มใจร้อนพูดขัดอย่างหัวเสีย “นี่เธอ พวกเราน่ะไม่มีเวลาว่างมา--...”
“Transform!” ปริ๊นเซสหมุนตัวอย่างสวยงามหนึ่งที พลันร่างของเธอก็กลายเป็นแรดตัวเล็กสีชมพูแปร๊ดชวนแสบตา
“แรด!!” ชายทั้งสามคนตะโกนพร้อมกันพร้อมชี้นิ้วไปยังอดีตสาวงาม
“กรี๊ดดดดดดดด~ อย่ามาว่าหญิงแรดนะ!”
“ไม่ใช่แรดแล้วจะให้เรียกกระซู่เรอะ!?” โรธอมสวนกลับเสียงแข็ง
“ไม่เอาทั้งนั้นล่ะทั้งแรดทั้งกระซู่ หญิงน่ะชื่อปริ๊นเซส ซินเดอเรล่า จูเลียต สโนวไวท์ อันโดรเมด้า แคสซิโอเปีย อัลเทมิส วีนัส ริน gaga มิลกี้ ไวตามิล ต่างหาก!!”
“ชื่อยาวขนาดนั้นใครจะไปจำได้ยัยกระซู่!”
“โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง! หญิงน่ะชื่อปริ๊นเซส ซินเดอเรล่า จูเลียต สโนวไวท์ อันโดรเมด้า แคสซิโอเปีย อัลเทมิส วีนัส ริน gaga มิลกี้ ไวตามิล นะ!! ถ้าจำไม่ได้จะเรียกว่า [หญิงสุดสวย] ก็ไม่รังเกียจหรอก!”
“เธอน่ะมั---...“ โรธอมต้องชะงักเมื่อเรฟมาฉุดแขนเขาให้เดินหนีไปอีกทาง “อย่าเสียเวลาเลยครับ รีบหนีก่อนน่าจะดีกว่า”
“เฮ้! อะไรน่ะ ทุกคนจะเมินหญิงไม่ได้นะ!!!” แรดสีชมพูตัวน้อยวิ่งไล่กวดหนุ่มร่างสูงทั้งสามไปแม้ความยาวของขาจะเทียบกันไม่ได้ก็ตาม...
คณะจรลีหนีภัยซ้อมาลัยที่ขณะนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นคณะจรลีลี้ภัยแรด พากันวิ่งหนีมาตามทางเดินด้วยความเร็วคงเส้นคงวาชนิดที่สามารถไปแข่งวิ่งมาราธอนได้สบายๆ พวกเขาสามารถสลัดแรดสีชมพูแปร๊ดตัวนั้นหลุดได้แล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ทำอย่างไรพวกเขาถึงจะสามารถหนีคิงคองผมเขียวที่มีชื่อว่าซ้อมาลัยได้ต่างหาก
แต่แล้วสายตาของพวกเขาก็ไปสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า สามพระหน่ออุทานอย่างตกใจ
“นั่นมัน....!!” | |
|
| |
pruk ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 23 Join date : 27/02/2010 : 28
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Mon Mar 01, 2010 12:48 am | |
| "โอ๊ยหยา" พิกซ์เพิ่งเดินลงมาจากบันไดชั้นสองหลังตื่นนอน เขาได้ยินมาว่าบริเวณระหว่างสระน้ำใกล้ๆกับหอพักนั้นมีการต่อสู้กับนักดนตรีที่มาเล่นเพลงเสียงดังแถวนี้บ่อยๆอยู่ เขาจึงกะว่าจะไปแอบดูซะหน่อย
เด็กหนุ่มค่อยๆย่องออกมาแอบอยู่หลังเสา เมื่อพบกับบุคคลที่น่ากลัวและน่าเกรงขามที่สุดของหอพักกำลังวิ่งไล่ผู้เข้าแข่งขันสามคนอยู่ เขาค่อยๆย่องไปทางประตูออกหอพัก เพื่อจะหนีไปยังบริเวณสระน้ำโดยปลอดภัยโดยไม่ต้องถูกพบโดยอาซ้อสุดโหด
เมื่อเขาก้าวถึงประตู ก็รีบวิ่งแจ้นหนีไปทางสระน้ำอย่างไม่คิดชีวิต....
-----
มาเป็นผู้ชมครับ ;w; | |
|
| |
Rotom ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 10 Join date : 15/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Wed Mar 03, 2010 10:29 pm | |
| “นั่น...คุณแฟรงค์ กวีผู้น่ารำคาญนี่นา”โรธอมพูดด้วยน้ำเสียงที่นึกออก พร้อมร้องอ้อกันทั้ง3คน “อย่ามาว่าฉันอย่างงั้นนะ พวกเธอกำลังหลบซ้ออยู่ล่ะสิ ฉันจะถ่วงเวลาซ้อไว้ให้เอง”กวีตรงหน้าพูดอย่างเชื่อถือได้ พร้อมหยิบพิณขึ้นมา ในขณะนั้นเอง ซ้อก็วิ่งมาด้วยความเร็วระดับชีตาร์เรียกพี่มาไกล้เรื่อยๆ กวีผู้นั้นจึงเคลื่อนที่ไปหาซ้อพร้อมกับเริ่มโจมตีซ้อทันที“บรรเลง”กวีผู้น่าสงสารดีดพิณอย่างสบายใจ แต่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย ท่าทางว่าซ้อจะโกรธกว่าเดิมอีกมั้ง
“ไปตายซะ ไป~~”ซ้อพูดพร้อมกับใช้ไม้ถูพื้น ฟาดหัวของกวีอย่างแรง กวีหน้าฟุบลงพื้นทันที ซ้อวิ่งไปยังเป้าหมายทั้ง3อย่างน่าสะพรึงกลัว ทั้ง3เห็นท่าไม่ดี รีบเผ่นออกจากบริเวณนั้น พร้อมกับตกลงมา(อีกแล้ว?)ยังชั้นล่าง ภาพชายหนุ่มยังคงแขวนไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แน่นอน โทรทัศน์ยังคงเป็นช่องเดิม แต่คราวนี้ซ้อไม่ยอมลงทางบันใด ซ้อกระโดดกระทืบพื้นจนตกลงถึงด้านล่าง...แต่ตกลงไปที่พื้น แล้วจมดินไปทั้งอย่างนั้น พวกของเจ้าชายรีบหนีไปต่อ แล้วพบว่า ห้องซ้อมีเนื้อที่เกือบ10กิโลเมตร วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่พ้น แต่ในขณะที่ซ้อพยายามดันตัวเองขึ้นมาจากหลุมดินนั้น โรธอมรีบหนีอย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องห้องๆหนึ่ง มีทั้งฝักบัว....อ่าง......ขัน.....ส้วม
“นี่มันห้องน้ำของซ้อนี่นา”เรฟพูดอย่างขยะแขยง ในขณะที่ซ้อโดนรุกรานความเป็นส่วนตัว ก็คำรามอย่างทรงพลังดั่งพญาราชสีห์ แล้วพุ่งตรงด้วยแรงควาย เจ้าชายตกใจมาก รีบขว้างสบู่ใส่ตาของซ้อ จนแสบตาสักพัก ระหว่างนั้น ทั้ง3ก็รีบหนีไปอีก ซ้อใช้มือปัดดวงตาของตนเอง แล้วรีบเก็บสบู่แล้วบีบอย่างแรงจนแตก พร้อมกับต่อยกำปั้นลงไปยังพื้นจนแตกกระจายไปทางของสามพระหน่อ ทั้งสามหนีขึ้นไปด้านบนแต่...บันไดพังเสียแล้ว ทั้งสามรีบวิ่งหนีไปเรื่อยๆทั่วทั้งห้องของอาซ้อ ผ่านไปนานเข้าๆ ก็เริ่มเหนื่อย แต่นั่นไม่ได้ทำให้อาซ้อเหนื่อยตาม ทั้งสามเผ่นด้วยฝ่าเท้าระดับเทพจนเจอช่องทางเล็กๆที่ผนังด้านซ้าย ซ้อยังคงวิ่งตามมาเรื่อยๆๆ
“ย้าก”เรฟ หนุ่มแวมไพร์ผมม่วงใช้ฝ่ามือต่อยเข้าไปยังช่องเล็กๆนั้นจนแตกกระจาย เป็นทางช่องเล็กๆ ทั้งสามสามารถผ่านไปได้ แต่ซ้อกลับติดอยู่ในช่องเล็กๆนั้น ซ้อจึงหาทางที่จะขึ้นด้านบน แต่ก็ไม่พบหนทางเลย
“สำเร็จ นี่อาจเป็นทางลับที่คุณบอกก็ได้นะครับ”เรฟปีนในช่องดล็กๆคนสุดท้าย โดยให้เจ้าชายเป็นกองหน้า ส่วนโรธอมอยู่ตรงกลาง
“เราไม่รู้สิ อาจจะใช่ก็ได้”เจ้าชายรีบคลานตามทางจนได้เห็นแสงสว่าง จึงรีบโผล่หัวออกไป พบว่ามันคือห้องๆหนึ่งที่มีอาวุธครบมือ อาวุธที่มีกลิ่นคาว อาวุธที่ใช้ได้ทั้งขว้าง ทุบ น้ำหนักเบา เนื้อหวานอร่อย...ปลาทูนั่นเอง
“กรรรร”ซ้อถีบประตูพร้อมร้องคำราม ทั้งสามตกใจรีบขว้างปลาทูออกไป ซ้อโดนเข้าเต็มๆ แต่ความโกรธดั่งเปลวเพลิงอเวจีเผาผลาญปลาทูที่ปาเข้ามาจนไหม้แล้วกระเด็นไปด้านหลัง แอนเนาซ์เซอร์หยิบปลาทูชิ้นนั้นขึ้นมากินอย่างสบายอารมณ์ ไม่ว่าทั้งสามจะปามากี่ครั้ง เปลวไฟนั้นก็เผาให้เป็นจุณทลายไป ทุกคนจึงพังหน้าต่างด้านหลังหนีออกไป พร้อมเข่งปลาทูเป็นร้อยไปด้วย ซ้อตะโกนเรียกคนทั้งหอมาอีกครั้ง กระสุนน้ำแข็งยิงมาจากมันหมูสววรค์ทั้งสามหลบเกือบไม่ได้ พลังต่างๆจำนวนมากพุ่งพรวดทำลายล้างผลาญมาจากทางคนที่หอพัก ทั้งสามไม่สนใจ รีบแลนดิ้งลงพื้นอย่างสวยงาม แต่ซ้อกระโดดตามลงมา หวังจะทับให้ตาย แต่ทั้งสามหลบทัน ซ้อจึงจมดินรอบที่2
“ไปเร็ว”ทั้งสามรีบวิ่งหนีออกจากสถานที่นั้น โดยซ้อพยายามลุกขึ้นแล้ววิ่งตาม ทั้งสามรีบวิ่งไปเรื่อยๆ จนเจอกับสุนัขตัวหนึ่งกำลังคุ้ยขยะอยู่ทั้งสามจึงเดินเข้าไปหา แต่แล้วมันก็กระโดดเอาตัวเข้าชนเจ้าชาย ทันใดนั้นเองโรธอมก็ได้ปล่อยสายฟ้าออกมาเพื่อปกป้องเจ้าชายไว้ได้ แต่สุนัขตัวนั้นไม่หยุด มันพุ่งเข้าชนพร้อมกับบ้วนอะไรบางอย่างออกมาจากปาก น้ำสีขาวที่เรียกกันว่าน้ำลายนั่นเอง เจ้าชายโดนเข้าเต็มๆที่แขน จากนั้น เจ้าชายก็รู้สึกคันจนทนไม่ไหว
“โอ้ย..คันจนเหมือนกับหมามุ่ยแบบนี้ น้ำลายมันต้องมีอะไรแน่เลย”เจ้าชายเริ่มใช้เล็บมือเกาแขนตนเองด้วยความคัน
“อาซ้อมานั่นแล้ว”เรฟหันไปมองแล้วตะโกนอย่างตกใจ เมื่อซ้อที่วิ่งมารวดเร็ว ไกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทุกๆย่างก้าว
“หาอะไรโยนสกัดหน่อยสิ”เจ้าชายยังคงเกาต่อด้วยอาการคัน โรธอมจึงหยิบเข่งปลาทูแต่....ปลาทูหายไปหมด สุนัขสีน้ำตาลอ้วนนอนพุงกางอย่างสบายใจด้วยความอิ่ม เรฟและโรธอมโมโหสุดขีด รีบขว้างสุนัขตั้วนั้นออกไปด้านหน้า
“เฮ้ยย มันขว้างมาแบบนี้คงต้องหยุดคนข้างหน้าล่ะนะหมัดหมาพิฆาตต”เจ้าสุนัขตัวนั้นใช้หมัดต่อยไปยังซ้อ แต่ซ้อใช้แขนปัดออกอย่างง่ายจนเจ้าสุนัขตัวนั้นกระเด็นไปทางโรธอม โรธอมรับสุนัขตัวนั้น แล้วหนีต่อจนเข้าหอพักอีกครั้ง ซ้อวิ่งตามด้วยความเร็วดั่งแสง
“ที่นี่ฉันรู้จักดีเดี๋ยวนำทางไปห้องลับของฉันให้”สุนัขตัวนั้นพูดขึ้นอีกครั้งท่ามกลางความสงสัยว่าสุนัขตัวนี้พูดได้ยังไง แต่ไม่มีเวลาถาม สุนัขตัวนั้นบอกทางไปยังห้องลับของมัน และแล้วทั้งสามคนก็ได้เดินมาจนถึงห้องหมายเลข99
“ฉันอาศัยอยู่ใต้ห้องนี้แหละ”สุนัขสีน้ำตาลบอกทางให้แก่ชายหนุ่ม โรธอมเดินเข้าไปในห้องๆนั้น เขาพบกับกุญแจสีเหลืองวางไว้บนโต๊ะ
“โอ๊ะกุญแจของฉันนี่นา เอ๊ะ....เดี๋ยว ห้องเบอร์99นี่มันห้องฉันนี่”โรธอมตะโกนด้วยน้ำเสียงตกใจ แต่สุนัขตัวนั้นเดินไปที่ห้องลับไต้เตียง พร้อมกับมุดลงไปด้านล่าง เจ้าชายและเรฟก็ตามไป โรธอมจึงเดินคลานไปใต้เตียง ผมสีทองเกี่ยวที่เตียงเล็กน้อย ก่อนจะมุดลงไป ที่ด้านล่างนั้น เป็นห้องค่อนขว้างกว้าง มีปลากัดใส่ขวดโหลจำนวนมาก
“เอ๋ ที่นี่มัน”โรธอมพูดพลางมองไปรอบๆ สุนัขตัวนั้นกระโดดขึ้นบนโต๊ะพร้อมกับใช้เท้ามันเขียนอะไรบางอย่าง
“นี่คือใบนักรบ ฉันเคยเป็นนักรบในอดีตมาก่อน แต่ถูกพ่อมดสาป ฉันเลยต้องมาอยู่ที่นี่ ในสภาพของสุนัข ไม่มีใครจำฉันได้เลย” สุนัขตัวนั้นทำเสียเศร้า พร้อมเริ่มเล่าอดีตของมัน
“ฉันเคยเป็นนักรบที่เก่งกาจเมื่อ10ปีที่แล้ว แต่ฉันตกอยู่ในอำนาจของพ่อมดคนหนึ่ง เขาสั่งให้ฉันยึดที่ดินแห่งนี้ ถ้าไม่ได้ต้องกลายเป็นสุนัขตลอดกาล เมื่อก่อนหอพักนี้เคยเป็นสนามรบ กองทัพของฉันเคยมาบุกที่นี่แล้วหลายรอบ แต่ไม่เคยสำเร็จ มีอยู่วันหนึ่งพวกเราตีเข้าสำเร็จ แต่เมื่อกองทัพทั้งหมดบุกเข้าไปก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง เข้าฆ่านักรบฝ่ายเราทุกคนจนไม่เหลือรอด ฉันเลยกลายมาเป็นแบบนี้แหละ จำได้ว่าเขาชื่อ มาลัย นะ”สุนัขตัวนั้นเล่าเรื่องอย่างโศกเศร้าเสียใจ ทั้งสามคนไม่มีใครฟังเลย ทั้งสามนอนบนเตียงนุ่มๆเตียงใหญ่ โดยไม่สนใจเลยสักนิด
“เฮ้ยย สนใจฟังหน่อย”สุนัขระเบิดใส่อย่างรุนแรง ทั้งสามคนสะดุ้ง
“ก็แหม เรื่องพวกนั้นยังไงๆก็รู้ว่าเฟคชัดๆ ใครบ้างล่ะมองซ้อแล้วรู้ว่าเป็นหญิงหรือชาย เจ้าหมาเลี้ยงแกะ”โรธอมพูดสบาย แต่ความสนุกไม่ได้หยุดแค่นั้น ซ้อกระทืบแผ่นดินลงมา แต่คราวนี้ซ้อแลนดิ้งลงพื้นได้อย่างงดงาม
“ซ้อ...ทำไมถึงอยู่ที่นี่ได้”เรฟพูดด้วยน้ำเสียอึ้งๆ สุนัขตัวนั้นหันไปมองอย่างสะพรึงกลัว ทั้งหมดทุกคนเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
“ฉันให้เจ้ากวีนั่นสร้างเครื่อง GT201 ให้ แล้วก็เจอเส้นผมแก ฉันเลยรู้ว่าแกแอบซ่อนอยู่ที่นี่”ซ้อพูดอย่างดุดัน แต่โรธอมกลับสงสัย
“ซ้อมุดใต้เตียงมาได้ไง ตัวซ้อเบ้อเริ่มขนาดนั้น”โรธอมพูดด้วยความสงสัย ซ้อกัดฟันกรอดๆอย่างโกรธเกรี้ว รู้สึกได้ถึงออร่าสีดำที่แผ่ตัวออกมาจากซ้อ มันเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ใครจะไปมุดให้เสียเวลา ฉันก็ยกเตียงแกทุ่มทิ้งไปเลยไง”ซ้อพูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น โรธอมร้องด้วยน้ำเสียงตกใจ ทั้งสองคน หนึ่งตัว มองด้วยสีหน้าเอือมระอา
“ใครจะตายก่อน”ซ้อหักมือเสียงดังกร๊อบๆจนคนที่ได้ยินหวาดหวั่น โรธอมใช้กุญแจฟาดไปยังซ้อแต่ซ้อจับกุญแจ โยนทิ้งไปนอกกำแพงจนกำแพงแตกกระจาย โรธอมจึงใช้หมัดต่อยไปยังซ้อแทน แต่ซ้อใช้หมัดกระทุ้งไปยังโรธอม จนลอยขึ้นชั้นบนสุดถึงเพดาน จนถึงดาดฟ้า และแน่นนอน คนอื่นก็ลอยขึ้นฟ้าไปตามๆกัน ซ้อใช้แรงขาก้าวกระโดดข้ามขึ้นไปจนถึงเพดาน ทันใดนั้นเองเมื่อถึงเพดาน ก็มีคนมาช่วยพวกของโรธอมไว้ เขาผู้นั้นคือชายหนุ่มผมน้ำเงิน ดวงตาสีแดง
“แกคือ ซากิเดะ ฮิตาชิ”โรธอมพูดอย่างไม่เชื่อสายตา เพื่อนของเขาจะมาช่วยเขาอย่างนั้นหรือ
“ใช่แล้ว ฉันจะสู้กับซ้อให้ แกคอยยืนดูอยู่เฉยๆพอ”เขาพูดอย่างองอาจ โรธอมกลืนน้ำลายแล้วพยักหน้า เนื่องจากบุคคลนี้เป็นนักรบที่แข็งแกร่งชนิดไม่มีใครสู้ได้ในรร.อาวุธขุมพลัง ซ้อซึ่งกระโดดขึ้นมาบนดาดฟ้า คำรามเหมือนทีเร็กซ์ ซาคิเดะได้ใช้พลังทั้งหมดต่อกรกับซ้ออย่างรุนแรง
3 วินาที ถัดมา...
“อ้ากกก อะไรจะแกร่งปานนั้น”ซากิเดะพูดหลังจากนอนลงที่พื้นด้วยฝีมืออาซ้อ | |
|
| |
Ebui ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 26 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sat Mar 06, 2010 11:49 pm | |
| “มั่นใจนะครับ ว่าคนๆ นี้เป็นนักรบที่แกร่งที่สุดในโรงเรียนของคุณ?” เรฟหันไปถามโรธอมอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อ ซากิเดะ ฮิตาชิ ที่ว่าเก่งนักเก่งหนา กลับโดนซ้อมาลัยซัดเปรี้ยงเดียวจอด ลงไปนอนกองกับพื้นอย่างน่าอเนจอนาถ
“...เขาเก่งที่สุดแล้วจริงๆ นะ” เด็กหนุ่มผมทองหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สุดแกร่งของตนคงไม่พ้นต้องไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาลเป็นแน่แท้
ซ้อมาลัยหันกลับมาเล็งเป้าหมายทางสองหนุ่มตัวกวนที่สร้างความวุ่นวายใจให้เธอมานาน “ปิดบัญชีกันซะทีล่ะไอ้หนู~~!!!”
ไม้ถูพื้นอันโตถูกเหวี่ยงลงมาด้วยท่าตบแมลงสาบ โรธอมและเรฟรีบใส่เกียร์หมาวิ่งจ้ำอ้าวหนีกันจ้าละหวั่น ชนิดที่ว่าถ้าบินได้ก็คงจะบินหนีไปแล้ว ปริ๊นซ์ผู้ถูกลืมยืนมองเหตุการณ์อยู่เงียบๆ ณ ริมรั้วดาดฟ้า การไล่ล่าของซ้อมาลัยถ้ามองอย่างใจเย็นแล้วมันก็คือการเล่นวิ่งไล่จับดีๆ นี่เอง...
“หยุดนะ~~!!!”
“เรื่องสิ!”
“หยุดก็โดน One hit KO สิคร้าบบบบ~”
การวิ่งไล่ล่าที่ดูยังไงก็เหมือนวิ่งไล่จับยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่สีหน้าของซ้อมาลัยก็ดูใกล้เคียงยักษ์มากขึ้นทุกที ชาวหอพักคนอื่นๆ ก็ทยอยกันตามขึ้นมาจนถึงดาดฟ้านี้ทีละคนๆ ...นี่ถ้ามีใครสักคนร้องตะโกนออกมาว่า [ดิสออร์เดอร์] ล่ะก็ คงจะครบสูตรความวุ่นวายตามแบบฉบับของนครสุดขอบฟ้าแห่งนี้ทีเดียว
“อ๊า~ เจอแล้ว~ สุดหล่อของหญิงงงงง~~~” แรดตัวน้อยสีขาว-ชมพู-เขียว ชวนแสบตาโผล่พรวดพราดเข้ามาและวิ่งเข้าไปขวางสองหนุ่มที่กำลังวิ่งหนีซ้อ
“ยี้~! ออกไปนะยัยกระซู่สีสลิ่ม!!”
“ไม่ได้สลิ่มนะ! นี่น่ะ เขาเรียกว่าสีอ่อนๆ สบายตา”
“สีอ่อนสบายตาบ้านไหนฟะ! ตาบอดสีรึไง!?”
“โรธอมครับ พอเถอะน่า...”
“ตายซ้า~!!!”
“หวา! ซ้อมาแล้ว!!”
“ก็เผ่นสิครับ!!”
“...ฮะๆๆ” มนุษย์จืดจาง ณ ริมรั้วยืนมองเหตุการณ์พลางหัวเราะน้อยๆ “เป็นแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกันแฮะ”
####
“แฮ่ก...แฮ่ก...” โรธอมหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน หลังวิ่งหนีซ้อรอบดาดฟ้าตึกหลายต่อหลายรอบ จนในที่สุดต้องแอบหลบลงบันไดกลับเข้ามาพักหายใจภายในอาคาร
แวมไพร์หนุ่มที่เพิ่งพาปริ๊นซ์วิ่งตามมา เอ่ยทักเด็กหนุ่มผมทองแกมบ่นๆ “วิ่งไม่รอกันเลยนะครับ”
“ถ้ารอก็โดนซ้อเชือดยกกลุ่มสิ...”
“...นั่นสินะครับ เอาเถอะ”
ทั้งสามคนสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ คลายความเหนื่อยล้า ...แต่พักเหนื่อยได้ยังไม่ทันไรก็มีเสียงที่คุ้นหูมาบอกเวลาประหารอีกแล้ว
ตึงๆๆๆๆ
“อีกแล้วเหรอ?” เรฟและโรธอมโอดครวญอย่างเหนื่อยหน่าย พวกเขาเริ่มรู้สึกเบื่อการหลบหนีซ้อมาลัยเต็มทน แต่ก็จำเป็นต้องทำเพราะตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยปริ๊นซ์ให้ถึงที่สุด ...แต่กระนั้น สีหน้าของคนที่ควรจะกังวลที่สุดกลับไม่ได้แสดงถึงความลำบากใจเลยแม้แต่น้อย หากแต่ยิ้มเสียอีกต่างหาก
“ยิ้มอะไรหรือครับปริ๊นซ์” แวมไพร์หนุ่มหันไปถามด้วยความสงสัย ขณะพากันวิ่งไปตามทางเดินภายในอาคาร
ปริ๊นซ์เอ่ยตอบเสียงแผ่ว “ก็แค่คิดว่า แบบนี้ก็สนุกดี”
“อะไรนะครับ?” คนฟังไม่ถนัดขอให้พูดซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“...ไม่มีอะไรหรอก ช่างเถอะ” แต่คนที่รู้ดีที่สุดว่าตนพูดอะไรนั้นกลับอุบเงียบ เบี่ยงประเด็นหนีเสียเฉยๆ
“ย้ากกกกกก~! เอานี่ไปกิน!!” เสียงก๊อตซิล่าคำรามดังมาจากด้านหลัง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คณะจรลีลี้ภัยแรดรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังบินมา
“เหวอ! ไม้ถูพื้นแอทแท็ค!!” ชื่อท่าที่ไม่รู้ไปได้มาแต่ตำบลหนใดถูกเด็กหนุ่มผมทองร้องขานดังลั่น ไม้ถูพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมเหมือนใช้ไฟฉายขยายส่วนของโดราเอ*ปี๊บ*พุ่งตรงมาทางพวกปริ๊นซ์ ขนาดที่ใหญ่จนแทบจะติดกำแพงทางเดินของมันทำให้ต้องคิดหนักเสียแล้วว่าจะหลบไปทางไหน...
“ทุกคน หมอบลง!” ปริ๊นซ์ร้องให้สัญญาณ ทั้งสามคนหมอบลงกับพื้นปล่อยให้ไม้ม็อบเจ้ากรรมบินผ่านหัวไป โรธอมถอนหายใจพูดอย่างโล่งอก
“มันไปแล้วสินะ...”
ไม้ถูพื้นลอยผ่านหัวของทั้งสามคนไป แต่แทนที่มันจะตกลงสู่พื้นตามกฎแรงโน้มถ่วงของนิวตัน มันกลับหยุดชะงักค้างกลางอากาศ แล้วพุ่งย้อนกลับมาโจมตีเป้าหมายที่หมอบอยู่กับพื้น
“ซะที่ไหนละว้อยยยย! เคี้ยก! มันมาแล้วววววววว!!” โรธอมร้องเสียงหลงจนแทบไม่เป็นภาษาคน เมื่อไม้ถูพื้นดันเปลี่ยนองศาพุ่งมาโจมตีพวกเขาได้ประหนึ่งขีปนาวุธติดตามตัวอย่างไรอย่างนั้น
“ย้อนศรมันผิดกฎจราจรนะครับคุณไม้ถูพื้น!!” แวมไพร์มองด้ามไม้ถูพื้นที่บินกลับมาอย่างหวั่นๆ พร้อมเอ่ยปากห้ามโดยยกกฎจราจรมาเป็นข้ออ้าง แม้จะรู้ว่าไม้ถูพื้นมันฟังภาษาคนไม่ออกก็ตาม
“ถอยหลังไม่ผิดกฎจราจรเฟ้ย! ...เฮ้ย เดี๋ยวนะ...นี่มันใช่ถนนซะที่ไหนเล่า!!” เด็กหนุ่มผมทองหันไปแว้ดใส่คนอ้างกฎไม่รู้กาลเทศะ แถมยังอ้างผิดๆ ถูกๆ อีกต่างหาก
“งั้นก็ช่วยเคารพกฎแรงโน้มถ่วงของนิวตัน แล้วตกๆลงสู่พื้นซะทีเถอะครับ! คุณเล่นแหกกฎฟิสิกส์แบบนี้ เกิดคุณป้าอุทุม*ปี๊บ*จับไปออกข้อสอบขึ้นมา เดี๋ยวเด็กไทยปีหน้าก็สอบ O-NET ไม่ผ่านหรอก!!” ...แต่คราวนี้เขากลับยกชะตากรรมอนาคตของชาติทางตะวันออกมาอ้างแทนซะอย่างนั้น แถมพูดเร็วปรื๋อจนฟังแทบไม่ทันอีกต่างหาก
“พูดเร็วขนาดนั้นไปโดนวิญญาณแอนเนาซ์เซอร์เข้าสิงมารึไง...เดี๋ยวนะ! นี่มันใช่เวลามาบ่นเรอะ!? แว้กกก~ มันมาแล้วววววว!!”
ไม้ถูพื้นพุ่งมาด้วยความรวดเร็ว และ...
“Scarlet Fog!”
...ชนเข้าอย่างจังกับกำแพงหมอกสีเลือดที่สร้างขึ้นมาได้ทันเวลาพอดิบพอดี
ไม้ถูพื้นที่หมดฤทธิ์ค่อยๆตกลงสู่พื้นอย่างที่สมควรจะเป็น
แกร๊ง!
“ทำแบบนี้ซะตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง...” โรธอมไม่วายหันไปบ่นคนมีทักษะดีแต่ไม่รู้จักใช้
คนโดนบ่นจึงหันกลับมาย้อนใส่ด้วยแพทเทิร์นมาตรฐาน “เรื่องมันจบไปแล้วก็พอทีเถอะครับ เห็นมั้ย ขนาดปริ๊นซ์ยังไม่บ่นอะไรเลยสักคำ-- ...เฮ้ย!”
ทั้งสองต้องตกใจ เมื่อพบว่า...
“ปริ๊นซ์หาย!!”
คนในความคุ้มครองที่เคยอยู่ข้างกาย บัดนี้ได้หายตัวไปเสียแล้ว...
####
“ท่านจะพาเราไปไหนน่ะ ....มาลัย” ปริ๊นซ์เอ่ยถามขณะที่ตนถูกบุคคลไม่รู้เพศร่างใหญ่แบกพาดบ่าเดินไปในอาคารหอพัก
“เด็กไม่ดีก็ต้องถูกลงโทษ” คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความของอาซ้อทวินเทลล์ผมเขียว ทำเอาปริ๊นซ์นิ่งเงียบไปอย่างจนปัญญาจะโต้เถียง
ตึกๆๆๆ
“ปริ๊นซ์ครับ!” ชายหนุ่มสองหน่อที่ลืมความเหนื่อยแล้ววิ่งตามมาแบบไวปานวอกร้องเรียกคนที่ถูกซ้อจับพาดบ่าพาเดินดุ่ยๆอยู่ข้างหน้า
ซ้อมาลัยหันกลับมามองด้วยความหน่าย “ตามมาอีกแล้วเรอะ?”
“ซ้อมาลัยครับ กรุณาปล่อยปริ๊นซ์ด้วยครับ” แวมไพร์หนุ่มวิ่งอ้อมมาหยุดยืนขวางหน้าซ้อมาลัยเอาไว้ไม่ให้ไปไหน ซ้อมาลัยจ้องหน้าตัววุ่นวายอย่างเอาเรื่อง
“ถ้าชั้นบอกว่าไม่ล่ะ?”
“ผมก็คงต้องใช้กำลังครับ”
“คิดว่าจะชนะชั้นได้รึยังไง ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!!” ซ้อมาลัยเหวี่ยงแขนหมายจะฟาดแวมไพร์หนุ่มเจ้าปัญหา แต่พอรู้ตัวอีกทีเป้าหมายก็พลันหายไปจากเบื้องหน้าของเธอเสียแล้ว
“ไปไหนแล้ว!?”
เรฟโบกมือให้สัญญาณจากหลังเงาของซ้อมาลัย “เอาเลย โรธอม!”
“ต่อไป เป็นเพลง Foever Love ของวง ดงบังชิน*ปี๊บ* ค่ะ~!!” เสียงพิธีกรสาวประจำรายการทีวีช่องไหนสักช่องดังแว่วๆมา ดึงดูดความสนใจของซ้อมาลัยให้หันไปหา
“เฮ้ย! อะไรนะ!? นุ้งแจ~~~” ซ้อมาลัยโยนบุคคลบนบ่าทิ้งพื้น แล้วกระดี๊กระด๊าวิ่งเข้าไปหาที่มาของเสียง โรธอมยืนถือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเปิดทีวีออนไลน์ช่องเพลงเกาหลีคอยล่อซ้อมาลัยให้วิ่งไปหา
“นุ้งแจ~~ ป๋ายุน~~” โรธอมวางโน้ตบุ๊คทิ้งไว้ให้ซ้อมาลัยตะครุบหน้าจออยู่อย่างนั้นแล้วลอบออกมา
และแล้ว ซ้อมาลัยก็สยบให้ความหล่อของหนุ่มแดนเกาเหลาอีกครา...
โรธอมและเรฟค่อยๆพาปริ๊นซ์ย่องหนีไปเงียบๆ... ขณะเดียวกันกับที่รายการทีวีถูกตัดเป็นโฆษณากะทันหัน
“นมหมูตรามะลิ ไหม้และสด ทุกๆหยด รสแย่เสมอ นมหมูตรามะลิ ไม่สดเสมอ~~” เพลงโฆษณายุคพระเจ้าเหาที่ไม่น่าเชื่อว่ายังมีอยู่บนโลกโผล่มาแย่งซีนเพลงดังของคิมแจ*ปี๊บ*ที่รักของซ้อมาลัยเสียดื้อๆ
“ไอ้ด๋อย~~ นมหมูกะปู๋ก๊าบ้านป้าแกเซ่!! เอานุ้งแจชั้นคืนมา~~!!!!” ซ้อมาลัยโวยวายเสียงสูงปรี๊ดดังลั่นจนคนแถวๆ นั้นแทบหูพังไปตามๆ กัน แถมลงไม้ลงมือตบตีโน้ตบุ๊คอันแสนบอบบางอีกต่างหาก...
####
“ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับปริ๊นซ์” สองหนุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือถามเจ้าชายอย่างเป็นห่วงเป็นใย ปริ๊นซ์ส่ายหน้าเบาๆ เป็นคำตอบ “...ขอบคุณนะ เราไม่เป็นไร”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะครับ...ว่าแต่ โน้ตบุ๊คนั่นไปเอาของใครมาน่ะ โรธอม” เรฟหันไปถามมือดีที่ฉกโน้ตบุ๊คของใครก็ไม่รู้มาล่อซ้อมาลัยได้ทันเวลา เพื่อจะได้ตามไปขอโทษเจ้าของคอมพิวเตอร์ผู้โชคร้ายได้ถูกตัว
“เอ่อ...ไม่รู้หรอก หยิบมามั่วๆน่ะ” โรธอมตอบสั้นๆ ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นคุย “นายคิดว่าโน้ตบุ๊คเครื่องที่ตกน้ำ กับเครื่องที่โดนซ้อมาลัยตบ เครื่องไหนจะโชคดีกว่ากันนะ?”
“ไม่รู้สิครับ แต่ถ้าเป็นผม ผมขอจมน้ำตายดีกว่า”
โรธอมไม่พูดอะไรต่อ เขาวิ่งนำทางไปเรื่อยๆ จนเห็นแสงสว่างข้างหน้ารำไร
“...ถึงแล้วล่ะ”
==============================================
Midchii : เซฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ !! ; w ; โอย รู้สึกว่าตัวเองแต่งแต่ละเทิร์นได้ไม่เหมือนกันอย่างแรงงงงงง เทิร์นนี้สำนวนที่ใช้ก็เปลี่ยนไปอีกแล้วสิ orz
ปล. กะปู๋ก๊า ถ้าเข้าใจไม่ผิด ความหมายมันคือ....สินะ เพราะงั้น ขอเอามายัดรวมในคำด่าแทนแล้วกัน =__=; | |
|
| |
Linkin_park ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 40 Join date : 22/02/2010 : 29 ที่อยู่ : Earth
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sun Mar 07, 2010 4:34 pm | |
| “หยุดก็โดน One hit KO สิคร้าบบบบ~”
One hit KO หมายถึงทีเดียวหมอบเลยใช่มะ? | |
|
| |
zilvilia ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 35 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sun Mar 07, 2010 9:24 pm | |
| - อ้างอิงจาก :
- One hit KO หมายถึงทีเดียวหมอบเลยใช่มะ?
"ถูกต้องแล้วค่ะ" ไซบอร์คสาวกล่าวแล้วเดินจากไป /////////////////////////////////////////////// ไซบอร์คสาวเดินกลับห้องด้วยอาการลิ้นห้อยขั้นโคม่า ทันทีที่เปิดห้องเข้าไป... "กรี๊ด!!! โน๊ตบุ๊คหาย!!!!!" | |
|
| |
Rotom ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 10 Join date : 15/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Wed Mar 10, 2010 7:12 pm | |
| ขอโทษครับ ผมไม่ว่างเลย ว่างแค่ตอนหลางคืน จะรีบปั่นส่งภายในวันพรุ่งนี้ครับ
ปล.ถ้าเป็นไปได้จะส่งภายในวันนี้ครับ | |
|
| |
King กษัตริย์แห่งนคร
จำนวนข้อความ : 174 Join date : 04/01/2010 : 24
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sun Mar 21, 2010 8:29 pm | |
| เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
และสุดท้าย...........................
องค์ชายของเราก็พ่ายแพ้ต่ออาซ้อผู้ยิ่งใหญ่ การต่อสู้นี้จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หอพักตลอดไป
"่ว่าแต่ท่านอาซ้อครับ... คือว่าทางลับนั้นมีจริงๆหรอครับ" "ไม่มีหรอก"
"หา!!!!!!!!!"
"แต่ว่าถ้าทางลัดละก็มีนะ..... "อาซ้อยิ้มกริ่มก่อนจะพาองค์ชายและชาวหอเดินเข้าไปในห้องของอาซ้อ
อาซ้อยิ้มกริ่มก่อนจะปรบมือเป็นจังหวะบางอย่างทันใดนั้นพื้นก็เปิดออกเป็นรูกว้าง.... และพาพวกเขาทั้งหมดไปส่งที่
"ดาดฟ้า!!"
"เฮ้ย!! ทำได้ไงว่ะ" "ซ้อเมพไงละจ๊ะ~~" | |
|
| |
zilvilia ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 35 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Sun Mar 21, 2010 9:46 pm | |
| มาบอกทันมั้ยเนี่ย...
จะมาแจ้งว่า ผมจะมาต่อเทิร์นแทนโรธอมครับ
คุยหลังไมค์กับมิจจี้แล้ว =w=" | |
|
| |
King กษัตริย์แห่งนคร
จำนวนข้อความ : 174 Join date : 04/01/2010 : 24
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Mon Mar 22, 2010 8:25 am | |
| - -..... เคยเห็นว่าคุยกันนานแล้ว ก็รอหลายสัปดาห์แล้วเห็นว่าไม่มีใครต่ออ่านะ อีกอย่างเห็นว่าเดี๋ยวบุยจะสอบเตรียมอะไรอีกนี่ครับ
ถ้าจะเอายังไงเดี๋ยวก็แจ้งอีกที เดี๋ยวเปิดให้เล่นต่อ~ | |
|
| |
Ebui ผู้เริ่มต้น
จำนวนข้อความ : 26 Join date : 14/02/2010
| เรื่อง: Re: [FAIL]หนีออกจากนคร Fri Mar 26, 2010 1:15 am | |
| ถ้าพี่เครทพร้อมจะลงเทิร์นต่อ ลุยเลย
ก็แค่ว่า สอบวันที่ 28 เพราะงั้น เราจะส่งเทิร์นได้อย่างเร็วที่สุดวันที่ 29
ส่วนตัวแล้ว ตอนนี้ตารางแอบแน่น มีอีกหลายอย่างต้องทำ แต่ถ้าจะแต่งก็แต่งต่อได้แหละ เพราะของเราก็เหลือแค่เทิร์นเดียว
อีกข้อคือแอบไม่อยากให้ล่มด้วยน่ะนะ เสียดายโจทย์ = =;
เอาเป็นว่า...แล้วแต่พี่เครท! =___=; เพราะได้ยินมาว่าพี่เครทติดฝึกงานเหมือนกัน orz | |
|
| |
| [FAIL]หนีออกจากนคร | |
|